Category: ข่าวบันเทิง

ฮอตไม่หยุดจริง ๆ สำหรับ “นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์” ที่ปัจจุบันมียอดฟอลโล่พุ่งต่อเนื่อง ด้านแฟนคลับร่วมแสดงความปลื้มใจผ่านแฮชแท็ก #2M100KstaywithNuNew หลังมีผู้ติดตามอินสตาแกรมทะลุ 2.1 ล้าน

ปังแล้วก็ฮอตตลอดไม่เคยแผ่วจริง ๆ สำหรับ “นุนิว” ที่มีความสามารถรอบด้าน แสดงก็ดี ขับร้องก็เยี่ยม แถมยังดวงขึ้นไม่ว่าจะหยิบจับทำงานอะไร
ก็กระแสตอบรับดีเสมอมา ซึ่งไม่ใช่แค่น่ารักน่าเอ็นดูในจอเท่านั้น นอกจอนุนิวก็แสนดีแล้วก็น่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ เหมือนกัน จึงมีแปลกใจว่าเพราะเหตุไรถึงมีแฟน ๆ ทั้งยังชาวไทยและก็ต่างประเทศเทใจรักนุนิวเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ล่าสุดยอดผู้ติดตามอินสตาแกรมทะล 2.1 ล้านเรียบร้อยแล้ว งานนี้แฟน ๆ ร่วมใจกันแสดงความปลื้มใจกันแน่นทวิตเตอร์ ผ่านแฮชแท็ก #2M100KstaywithNuNew แถมยังขึ้นติดเทรนด์อันดับ 1 อีกด้วย

เปิดวาร์ป”นุนิว ชวรินทร์” กับเส้นทางวงการบันเทิงที่ไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ

“นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ” เป็นซีรีส์วายอีกเรื่องที่แฟน ๆ ให้การตอบรับดีมาก ๆ เลยทีเดียวกับเรื่องราวที่พูดถึงการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน และก็ความรักของคนภายในกลุ่มนี้ ผ่านภาพหลังที่เป็นตระกูลใหญ่มีชื่อเสียง ระดับนักธุรกิจ ซึ่งจับพระเอกหนุ่มอย่าง “ซี พฤกษ์” มาสวมบทนักธุรกิจ ที่ต้องคอยดูแลรวมทั้งจับตาคู่หมั้นที่รับบทโดย”นุนิว” เกิดกระแสคู่จิ้นในจอและก็นอกจอถูกเชียร์ให้เป็นคู่จริง

วันนี้ขอพาไปทำความรู้จัก “นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์” หรือว่า “หนูเกื้อ” จากซีรีส์ดัง “นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ” กันซะหน่อยบอกเลยว่าดีกรีไม่ธรรมดาจริง ๆ

• สำหรับ”นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์” นั้นเป็นนักแสดงชายชาวไทย
• เกิดวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2544
• โดย “นุนิว”เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงจากการที่ผู้จัดการส่วนตัวได้ทักไปในเฟซบุ๊กเพื่อสอบถามว่า”นิว”สนใจที่จะทำงานในวงการบันเทิงมั้ย แล้วนักแสดงหนุ่มจึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึษาครอบครัว ซึ่งทางพ่อแม่ก็ไม่ได้แย้ง “นุนิว”ก็เลยตอบรับคำชวน

บอกเลยว่ากว่าจะเป็น “นุนิว”ทุกวันนี้เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุลหลาย เพราะว่าก่อนหน้านั้น “นุนิว” ได้เคยเข้าร่วมโปรเจ็กต์หนึ่งแต่ก็ล่มไปเสียก่อน
ซึ่ง”คนวงใน”ก็เล่ากันต่อ ๆ มาว่า “โปรเจกต์ดังกล่าวก็เป็นซีรีส์เช่นเดียวกัน และด้วยปัญหาบางอย่างโปรเจกต์ก็ยุบตัวลงแบบฟ้าผ่า เพราะเหตุว่ามีการแจ้งยกเลิกคิวก่อนหน้าเปิดกล้องวันแรกเพียงแค่ข้ามคืนเท่านั้น” ตามข้อมูลที่ได้รับมา หลังแล้ว “นุนิว” ก็ได้ถูกชักชวนให้มาอยู่ที่ ดูมันดิ : DoMunDi TV ภายใต้การดูแลของ “อ๊อฟชั่น กิตติพัฒน์” ซึ่งนักแสดงชายหนุ่มก็เริ่มมีผลงานเข้ามาบ้างประปราย จนถึง “นุนิว”ได้มีผลงานการแสดงซีรีส์เรื่องแรกเรื่อง Cutie Pie Series (นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ) ประกอบคู่ “ซี พฤกษ์ พานิช”นั่นเอง

แต่บอกเลยว่า “นุนิว ชวรินทร์” นั้นไม่ได้มีดีเพียงแค่เรื่องการแสดง

เพราะเหตุว่าเรื่องของการร้องเพลงคือหนึ่งความชอบของหนุ่มคนนี้ แล้วก็ด้วยเสียงที่มีเอกลักษณ์ เพลงต่าง ๆ ที่ชายหนุ่มคนนี้คัฟเวอร์ และขับร้องออกมาก็ได้รับความชื่นชม ติดอกติดใจมากมายเลยทีเดียว ซึ่งในซีรีส์ Cutie Pie Series (นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ) นุนิว  ก็ได้ขับร้องมี อาทิเช่น ไอ้คนน่ารัก , How You Feel , เปลี่ยน ฯลฯ

หนุ่มหน้าหวานยิ้มละลาย นุนิว นักแสดงวัยรุ่นขวัญใจสาววาย ที่ปัจจุบันนี้กำลังเป็นกระแสโด่งดังจากซีรีย์วายที่ได้รับความนิยมเรื่อง นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ (Cutie Pie Series) จากการสวมบทบาทเป็น หนูเกื้อ สุดน่ารักน่าเอ็นดู ! ที่ขโมยหัวใจสาวเล็กสาวใหญ่ทั้งยังในประเทศ
และต่างประเทศไปเป็นกระบุง

กระแสความฮอตของ นุนิว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงวัยรุ่นที่ถูกจับตามองแห่งปีเลยก็ว่าได้

ตกลงว่าใครที่ต้องการทำความรู้จักกับหนุ่มหน้าใสยิ้มหวานคนนี้กันให้มากขึ้น พวกเราจะพาทุกคนไปเปิดประวัติ นุนิวนักแสดงวัยรุ่นขวัญใจสาววาย ไปพร้อม ๆ กันเลย

ประวัติ นุนิว

• ชื่อ: ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์
• เกิดวันที่ : 25 กรกฎาคม 2544
• ส่วนสูง : 173 ซม. น้ำหนัก : 60 กก.
• ปีที่เริ่มแสดง : ปี 2556
• การศึกษา: คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาจีน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
• ช่องทางการติดตาม : Instagram : new_cwr Twitter : CwrNew

นุนิว เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการชักชวนจากผู้จัดการส่วนตัว

โดยผลงานแรกของ นุนิว เป็นรายการ ดูมันดิ : DoMunDi TV หลังแล้วต่อจากนั้น นุนิว ก็เริ่มมีผลงานเข้ามาบ้างบางส่วน
จนได้รับช่องทางให้แสดงซีรีย์คราวแรก คือเรื่อง Cutie Pie Series นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ ประกอบคู่กับนักแสดงชายหนุ่มฮอต ซี พฤกษ์ พานิช
นุนิว ชวรินทร์ มีผลงานแสดงเรื่องแรกก็เป็นที่รู้จักในทันที จากการรับบทบาทเป็น หนูเกื้อ ในซีรีย์วายเรื่องแรกของ นุนิว เรื่อง Cutie Pie Series นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ เรื่องนี้เจ้าตัวเล่นบทนำเป็นนายเอกประกบคู่กับพระเอกดาวรุ่งมีชื่อ ซี พฤกษ์ พานิช เรียกว่าเป็นคู่พระ – นายที่เคมีดีมาก ๆ จนถึงขั้นแฟน ๆ จิ้นฟินกันทุกอาทิตย์
ทวิตติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ทุกหนหลังซีรีย์ออกอากาศฉายเลยทีเดียว

นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ Cutie Pie Series

เป็นซีรีย์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่ยืนหยัดในการส่งเสียงเพื่อกลุ่มชาว LGBTQ+ เล่าเรื่องราวของสมรสเท่าเทียม ซึ่งนับว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก เป็นเรื่องราวของคนสองคนที่ถูกหมั้นหมายกันตั้งแต่เด็ก แต่พอโตมาแล้ว ทั้งสองราวกับมีตัวตนที่ลึก ๆ ซ่อนอยู่ แต่ต้องเก็บไว้ เพื่อที่จะให้ต่างฝ่ายต่างประทับใจกัน จึงนำมาสู่การการค้นหาข้อเท็จจริง แล้วการแต่งงานจะเกิดขึ้นได้จริงไหม ต้องไปติดตามดูกัน !

โดยในเรื่องนี้ นุนิว รับบทเป็น หนูเกื้อ คุณหนูตระกูลผู้ดีเก่า ดีกรีลูกชายท่านทูต ที่ต้องทำตัวให้เรียบร้อยดูดีเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของครอบครัว
แต่ตัวจริงนั้นแสนจะแสบซ่า ! ซึ่งถูกจับให้หมั้นหมายกับพระเอก เหลียน กิเลน หวัง (ซี พฤกษ์) นักธุรกิจหล่อร่ำรวย จากครอบครัวเชื้อสายจีน

เว้นเสียแต่ นุนิว จะมีพรสวรรค์เรื่องการแสดงแล้ว
ด้านการร้องเพลงก็จัดว่าทำได้ดีไม่น้อยหน้าเหมือนกัน นุนิว ถูกใจการร้องเพลงเป็นอย่างมาก
และก็ด้วยเสียงที่มีเอกลักษณ์ เพลงต่าง ๆ ที่หนุ่มคนนี้คัฟเวอร์ แล้วก็ขับร้องออกมาก็ได้รับความรู้สึกชื่นชมยินดี รู้สึกชื่นชอบมากมายเลยทีเดียว
โดยในซีรีย๋เรื่อง Cutie Pie Series (นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ) นุนิว ก็ได้ร้องเพลงประกอบซีรีย์เองอีกด้วย อาทิเช่นเพลง ไอ้คนน่ารัก , How You Feel,เปลี่ยน รวมทั้งเพลง
ให้ฉันเป็นของเธอ ซึ่งแต่ละเพลงหลังจากปล่อยออกมาได้ไม่นานก็ไต่เข้าชาร์ตต่าง ๆ ในไทยเป็นว่าเล่น แถมมิวสิกวิดีโอยอดวิวเข้าชมทะลุไปกว่า 1 ล้านวิวในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย

ผลงานในวงการบันเทิง

• ผลงานซีรีย์
  Cutie Pie Series นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ
• ผลงานเพลง
  2565 ไอ้คนน่ารัก,How You Feel,เปลี่ยน,ให้ฉันเป็นของเธอ,รักแท้ เพลงจากละคร คุณชาย

ข่าวบันเทิง อาทิตย์นี้ ต้องยกให้ เรื่องราว ของ “บิว จักรพันธ์ พุทธา” นักแสดงชายหนุ่ม ที่ โด่งดังจาก ซีรีส์วาย เล่าแบบคร่าว ๆ เลยนะ คือ อดีตแฟนสาวเขา ออกมา เปิดโปงหลายเรื่องอีกทั้งเรื่อง เงินทอง รถยนต์ เรื่องส่วนตัวของเขากันนั่นแหละ มี เรื่องทำร้ายร่างกาย มี หลายเรื่อง ทางค่าย ก็ไม่ปล่อย ให้รอนาน เนื่องจากว่า เรื่อง เริ่มบานปลาย ด้วยเหตุว่ามีผลกระทบ กับ งานของบิว พรีเซนเตอร์งานเอย โซเชียลเอย บิว ต้องพักไปเลยแล้วก็แน่นอนว่า

วันเสาร์นี้ 28 มกราคม จะได้ชี้แจงข่าวสาร

ผ่านไลฟ์สตรึมมิ่งของค่าย บี ออน คลาวด์ อธิบายเรื่อง ดังกล่าว อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องราว ของชายหนุ่มบิวครั้งนี้ สั่นสะเทือนหนักมากจริง ๆ รอบทสรุปอีกที เพราะเหตุว่าแว่วว่า เงินทองรถยนต์ในบางส่วนได้คืนกันแล้ว ส่วนเรื่องอื่น ต้องรอว่าจะ แถลงออกมาว่าอย่างไรอีกครั้งหนึ่ง แต่เล่นเอากระเทือนวงการทวิตเตอร์กันเลยทีเดียว

ข่าวบันเทิง มาเล่าเรื่องซุปตาร์อย่าง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ”

นางเอกหนังเรื่อง “ทิดน้อย” ที่กำลังเข้าฉาย กับเรื่องราวของความรักที่ไม่ปล่อยให้รอนานหรอก อั้มก็ออกมายอมรับตรง ๆ ว่าจบไม่ดีกับ “ไฮโซพก” เลิกกันวันที่ 10 ธ.ค. ไม่ได้ติดต่อกัน แต่เจอกันในเกมเท่านั้น ชีวิตที่่ผ่านมาไม่เคยคบใครแล้วหวังเงินจากฝ่ายชาย ซื้อของให้ เวลาเลี้ยงข้าวก็สลับกันเลี้ยงมาโดยตลอด ถ้าหากพูดถึงเรื่องครอบครัว
หากมีดีก็ต้องการแต่ง แต่หากไม่ดีก็ขอใช้เงินคนเดียวได้ สบายใจกว่า แม่ก็คือแม่ ตอบชัด รวมทั้งตรงมากกับรักคราวนี้ และก็ต้องกล่าวว่าไม่มีมือที่สาม เป็นเรื่องที่แก้ไม่ได้ เหตุผลคล้ายกับการเลิกกันในรอบที่แล้ว อะเก็บเสื่อถาวรไป มันจบลงแล้ว บีบมือแม่และทุกฝ่าย ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่เนอะ จบปึ้ง!

“แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” นางเอกชื่อดัง

แอดมิทเข้ารพ. เข้าออกอยู่ 4 วัน ซึ่งทางผู้จัดการส่วนตัวของแต้ว ได้มีการออกมากล่าวมาว่า แต้วป่วยด้วยอาการท้องร่วง
ร่างกายขาดน้ำ หมดแรง อาเจียน ก็เลยนำส่งโรงพยาบาล ปรากฏแพทย์ระบุว่า เป็นอหิวาตกโรค อยู่ในมือหมอ รวม ๆ อยู่โรงพยาบาล 4 วัน เข้า ๆ ออก ๆ เนื่องจากว่าต้องเร่งถ่ายละครของ “แอน ทองประสม” เนื่องมาจากต้องรีบปิดกล้อง ซึ่งแต้วเองก็กล่าวว่าไหว ขอถ่ายละครเอง ไม่มีใครบังคับ สปิริตแรงกล้า และไม่ต้องการเจ็บป่วยเจอโรคหายาก บอกเลยว่าเจ้าตัวถึงกับกล่าวว่าป่วยต้นปี แต่สปิริตแรงกล้ามากจริง ๆ

ดารารุ่นใหญ่อย่าง “หมวย สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์” ข่าวบันเทิง

ก็ออกมาบรรยายเรื่องราวของตัวเองและเปิดใจเรืองของคู่ชีวิตที่คบหากับสาวหล่อที่ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับทราบมานานแล้วจากแฟนคลับที่เอ็นดูกัน ก็ทำให้ฝ่ายแฟน ๆ ขยับมาเป็นแฟนครับ เสียแล้วบอกเลยว่า น่ารักสุด ๆ
ซึ่งแน่นอนว่าอายุห่างกันเป็น 10 ปี แต่ก็รักกันมานาน รวมทั้งดูแลกันมานานเรียกว่าคว้าหัวใจนักแสดงมากความสามรถได้ โลกสีชมพูเลยทีเดียว เติมเต็มให้กันและกันและไม่เคยทิ้งกันไปไหน

ข่าวบันเทิง อะ ตัวย่อมาอีกแล้วอาทิตย์นี้ เดากันอีกแล้ว

สามีดาราชื่อดังซุกบ้านน้อย แอบดูแลบ้านน้อยงี้ ทายใจกันไปต่าง ๆ นานา ร้อนไปถึง “ป๊อก-มาร์กี้” แต่เป็น ที่ ยืนยันแล้วว่า ไม่ใช่คู่นี้แน่นอน แต่เป็นคู่ ไหนต้องรอฟัง ที่ เมาท์กันมาเลย คือ คนที่ เป็นบ้านน้อยก็สวย รวย พร้อม คุณสมบัติครบ ส่งคนตามเฝ้า แบบไม่เกรงใจ ภรรยา เขากันเลยทีเดียว (ใครน้อน่ะ) รอฟังว่าใครกันนะ มี เรื่องแบบนี้ ปีที่ผ่านมา ดารารักเลิกหลายคู่ เดากันไม่ถูกแล้วแม่ ได้ แต่รอฟังว่าจะลงเอยอย่างไรน้อ ข่าวนี้ กระเทือนวงการ หลายคู่ ไปเลยแม่ ใครอีก น้อรายถัดไป!

ก่อนหน้านี้ก็ทำเอาบรรดาเเฟนคลับชาวไทยถึงขั้นเเตกตื่นไปตาม ๆ กัน เมื่อนักแสดงชายสามีเเห่งชาติเเดนมังกรอย่าง
หยางหยาง จู่ ๆ เจ้าตัวก็มาโผล่ทะเลภูเก็ตเช็คอินประเทศไทยซะอย่างงั้น โดย หยางหยาง บินมาคราวนี้เพื่อมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีนกับครอบครัว
ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ภาพใบหน้าหล่อ ๆ ลงเว่ยป๋อ พร้อมกับเจาะจงเเคปชั่นว่า “สวัสดีปีใหม่! พวกคุณทานอะไรในวันส่งท้ายปีเก่า”

ปัจจุบัน ( 25 มกราคม 2566) ก็ดูประหนึ่งว่า หยางหยาง

จะยังไม่เดินทางกลับประเทศจีน เนื่องจากว่ามีคนบังเอิญเจอที่ ตลาดนัดเเห่งหนึ่ง เเละดูเหมือนกับเจ้าตัวกำลังยืนกินของอร่อยอยู่ ไม่มีใครไปก่อกวนเเละให้ความเป็นส่วนตัวมาก ๆ อย่างไรก็ตามขอให้หยางหยาง เที่ยวไทยให้สนุกนะคะ

หยางหยาง (Yáng Yáng) กับผลงานสุดปังแบบหยุดไม่อยู่

ณ ในช่วงเวลานี้ คงไม่มีใคร ไม่รู้ เขาคนนนี้ Yáng Yángชายหนุ่มนักแสดงมากฝีมือ ไม่เว้นแต่การแสดงเท่านั้น เขามีดีทางด้านเสียงร้อนด้วยนะ แถม ณ นาทีนี้ ชายหนุ่มหยางหยางคนนี้ ยังคงกุมหัวใจของสาว ๆ ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย ทุกคนต่างหลงเสนห์ของเขาผ่านซีรีส์ต่อหลายซีรีส์ อย่างซีรีส์ล่าสุด “เทียบท้าปฐพี” เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ครองใจคนดูมากที่สุด ความหล่อ ความน่ารักน่าเอ็นดูแล้วก็รอยยิ้ม ของเขา ทำเอาคนดูยิ้มตามกันเลยทีเดียว

ยิ้มนี้โลกละลาย Love o2o / 微微一笑很倾城 (2016)

ชื่อเรื่อง : ยิ้มนี้โลกละลาย Love o2o / 微微一笑很倾城 (2016)
นักแสดง : เจิ้งฉวง, หยางหยาง, ราเซล โมโม
ประเภท : โรแมนติก, แฟนตาซี
จำนวนตอน : 30 ตอน
ซับไทยถูกลิขสิทธ์ : Netflix, Viu

เกมเมอร์ หญิงสาวที่ตีสถิติ เป้ยเวยเวย ในนาม “หลู่เหว่ยเวยเวย” (สวมบทบาทโดย เจิ่งสั่ว) ที่สามารถเล่นเกมในสกิลที่ยอดเยิ่ยมหนึ่งในสิบของผู้เล่นเกมหญิง เจินสุ่ย สามีในเกมต้องการเจอตัวจริงของเธอ แต่เธอปฏิเสธ ในความเป็นจริง เธออยากเป็นนักออกแบบเกม เธอแอบรักรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งนั้นก็คือเซี่ยวไน่ (สวมบทบาทโดย Yáng Yáng) เป็นคนที่เก่งรอบด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน ด้านกีฬา แถมยังเป็นนักศึกษาที่โด่งดังของมหาลัยอีกด้วย เมื่อเธอถูกเจินสุ่ยทิ้งในเกม แต่ได้อี๋เซี่ยวไน่เหอ ผู้เล่นอันดับหนึ่งของเซิร์ฟเวอร์ มาขอเธอแต่งงานในเกม เธอตอบตกลงโดยทันที จากการเจอกันผ่านเกม ๆ หนึ่ง แล้วสานสัมพันธ์ต่อในรั่วมหาวิทยาลัย เซี่ยวไน่แอบช่วยเหลือเธออีกทั้งในเกม และก็ในความเป็นจริง ถ้าไม่หลงเสน่ห์ก็คงจะไม่ได้เสียแล้ว เมื่อเรื่องนี้ หยางหยาง คือแบบหล่อมากกกก รอยยิ้มของเขาสามารถล้อมใจคนดู จนทำให้ติดงอมแง ๆ มเลยล่ะ ขอบอก…. เป็นซีรีส์ที่ดูแล้วไม่จำเจ ความรักของเขาสองคนตราตรึงในใจ เชื่อว่าต้องหมุนเป็นวงกลมอีกรอบแน่นอน

ใครจะไปคิดว่า…เมื่ออยู่ดี ๆ มีคนมาขอแต่งงาน จะรีบเร่งไปไหม แต่นั้นก็คือเกม พอมาเจอเรื่องจริงเท่านั่นแหละ เขาคนนั้น คือคนที่แอบชอบ มาขอเป็นแฟนอีก อีกทั้งหล่อหน้าตาดี เก่งรอบด้าน โอ้ย…ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรแล้ว นอกจากเธอ บทของหยางหยางเรื่องนี้ เหมือนความฝัน ที่ตื่นมาแล้วพบกับความจริง หล่อ มั่งมี เก่ง สายเปย์ แถมสุดท้ายยังก่อตั้งบริษัทเป็นของตัวเองสะด้วย ไม่ให้รัก น่าจะไม่ได้แล้วแหละ

สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่ Once Upon a Time / 三生三世十里桃花 (2017)

ภาพยนต์เรื่อง : สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่ Once Upon a Time / 三生三世十里桃花 (2017)
นักแสดง : หยางหยาง, หลิวอี้เฟย์, หลัวจิน, เหยียนอี้ควน
ประเภท : โรแมนติกแฟนตาซี
ช่องทางการรับชม : –
เวลาในการออกอากาศ : 1 ชั่วโมง 49 นาที

หนังเรื่องนี้ จะเกี่ยวกับ ภพชาติ ที่มีรวมกัน ความรักที่ยาวนาน ของเทพเยี่ยหัว (เล่นบทโดย Yáng Yáng) ที่หลงเสน่ห์ นางผู้เป็นมนุษย์ และแต่งงานกัน และขึ้นไปสรวงสวรรค์ แต่แล้ว เยี่ยหัว ถูกลงทัณฑ์เพื่อปกป้อง ซู่ซู่ (สวมบทโดย หลิวอี้เฟย) แฟนของเขา แต่ด้วยความเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่าย ซู่ซู่ จึงยอมกระโดดฆ่าตัวตาย แล้วกลับกลายมาเป็นสุนัขจิ้งจอก แล้วลืมเรื่องราวทั้งหมดของเธอที่เคยเกินขึ้น และมาเจอกันอีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปสามร้อยปี แล้วก็พวกเขาสองคนก็แต่งงานกันอีกครั้ง ความทรงจำที่พวกเขามีให้กัน จะหมดไปหรือเปล่า? การพบกันในทุก ๆ ชาติ เป็นการถูกลงทัณฑ์ หรือ พรหมลิขิตกันแน่ !!

ภาพยนต์เรื่องนี้ กราฟฟิกคือยอดเยี่ยมมาก คอสตูมคือสุดจริง เรื่องราวเหนือธรรมชาติ สนุก เศร้าไปพร้อม ๆ กัน เมื่อดูแล้ว เชื่อเลยว่า ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ ความน่ารักของสองนักแสดงที่มาตามติดกัน เคมีเข้ากันมาก ๆ ฉากทุกฉากเพิ่มสีสันความสดใสที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ เป็นภาพยนต์ของหยางหยาง อีกเรื่อง ที่เป็นเทพได้หล่อมากก ความรักแล้วก็โชคชะตา จะนำพาสองคนข้ามภพข้ามชาติอย่างไร? ต้องติดตามให้ได้

จะพูดว่า เรื่องนี้อะ!! หยางหยางโปรยเสน่ห์อันร้อนแรง ผ่านบทท่านเทพ ทั้งยังน้ำตา อีกทั้งรอยยิ้ม เบ้าหน้าเหมือนฟ้าประทาน เหมาะกับบทที่ได้รับจริง ๆ โอ้ย…หล่อมาก ๆ หยางหยางเขาจะจริงจังกับการแสดงเสมอ ไม่ว่าบทจะบางส่วนแต่เขาส่งบทต่อได้ดีมาก ๆ น้ำตาที่เอ่อของหยางหยาง ทำให้ผู้เขียนไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ คือต้องร้องไห้ตามอะ…ขอบอก

มหายุทธหยุดพิภพ Martial Universe / 武动乾坤 (2018)

ชื่อเรื่อง : มหายุทธหยุดพิภพ Martial Universe / 武动乾坤 (2018)
นักแสดง : หยางหยาง, หวังลี่คุน, จางเทียนอ้าย, อู๋ จุน
ประเภท : โรแมนติก, ผจญภัย, แฟนตาซี
จำนวนตอน : 60 ตอน
ซับไทยถูกลิขสิทธิ์ : –

จากหนุ่มธรรมดาที่ไม่มีวรยุทธอะไรเลย สามารถต่อสู้ทั้งคนและพญาเสือไฟโดยไม่เกรงกลัว หลิงตง (สวมบทโดย Yáng Yáng) พยายามทุกอย่างเพื่อจะหายามารักษาพ่อของเขา รวมทั้งวันหนึ่งเขาได้เจอก้องหินวิเศษที่ลึกลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ต้องการหมายปอง หลิงตงผู้ที่ผ่านความยากลำบากและก็อุปสรรคนับไม่ถ้วน เพื่อเอาชนะคนชั่วร้าย และก็ในที่สุดเขาก็สามารถเป็นวีรบุรุษแห่งความรอดรวมทั้งได้รับความรักรวมทั้งมิตรภาพ ไม่เท่านั้น เรื่องนี้ยังมีอู่จุนสุดหล่อ มาแข่งบทบาทด้วย
น่ารักทีสุด หลังจากดูซีรีส์เรื่องนี้ คนอะไรไม่มีหากแม้กระทั่งวรยุทธ แต่กลับมีชีวิตรอดทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างที่เขาพบเจอ หยางหยางคือกะล่อนมาก เลห์เหลี่ยมพราวแพรวอย่างหาผู้ใดได้ บางครั้งก็บางครั้งก็อาจจะน่าเบื่อบ้าง แต่ก็สามารถสร้างสีสันในเรื่องออกมาได้อย่างชัดเจน ถ้าหากดูจากซีรีส์เรื่องอื่น บทของหยางหยางอาจจะแตกต่างอย่างทั้งหมด ซีรีส์เรื่องอื่นมักจะเป็นคนที่เงียบขรึม แต่สายหล่อไม่ต้องพูดถึง หยางหยางคือหล่อไม่เกรงใจใครจริง ๆ เบ้าหน้านี้ !! บอกตรง ๆ เป็นหล่อ แบบไม่สามารถบรรยายได้จริง ๆ

เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ The king’s avatar 全职高手 (2019)

ชื่อเรื่อง : เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ The king’s avatar 全职高手 (2019)
นักแสดง : หยางหยาง, เจียงซูอิ่ง, ไล่อี้, หยางถิงตง
ประเภท : กีฬา esports
จำนวนตอน : 40 ตอน
ซับไทยถูกลิขสิทธิ์ : Wetv, Netflix

เยี่ยซิว (สวมบทโดย Yáng Yáng) ผู้ชนะและผู้เล่นกีฬาอีสปอร์ต วงการเกมส์กลอรี่มืออาชีพ และไม่เคยเปิดเผยตัวตน ในชื่อ “อี๋เยี่ยจือชิว” เป็นสุดยอดฝีมือตัวละครระดับเทพ ที่ใคร ๆ ก็ต้องพ่ายต่อเขา แต่เนื่องด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เขาต้องส่งตัวละครที่เขาสร้างมาด้วยมือ ให้กับผู้อื่น รวมทั้งลาออกจากวงการเกมส์ เยี่ยซิวจึงตัดสินใจสมัครเป็นพนักงานร้านอินเตอร์เน็ตค่าเฟ่ ซึ่งมีเจ้าของร้านเป็นแฟนพันธุ์แท้เกมส์ หลังหลังจากนั้น เยี่ยซิวสร้างทีมของตัวเอง เขาก่อร่างสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่รวมทั้งใช้ไอดี “จวินม่อเซี่ยว” เขารวบร่วมทีมกลุ่มมือสมัครเล่น ร่วมกันสร้างสโมสรใน
ชื่อซิงซิน พวกเขาต้องเจอเจอกับอุปสรรคมากมาย จากมือสมัครเล่น พวกเขาสามารถไต่เต้าเป็นผู้เล่นเกมส์มือโปร ผู้ร่วมเล่นเกมส์ในครั้งนี้จะเป็นใครกันบ้าง?
สกิลของแต่ละคนจะร้ายกาจแค่ไหน ต้องติดตามซีรีส์เทพยุทธเซียนกลอรี่ให้ได้

บอกได้เลย เป็นอีกซีรีส์ ที่เกี่ยวกับการเล่นเกมส์ของหยางหยาง หล่ออีกทั้งในเกมส์รวมทั้งนอกเกมส์ รวมทั้งหล่อทะลุจอด้วย
สำหรับใครเป็นแฟนพันธุ์แท้เกี่ยวกับเกมส์ เรื่องนี้แนะนำเลย ว่าอย่าพลาดเด็ดขาด !! ทั้งสนุก ทั้งดุเดือด ไม่ดูคงจะไม่ได้จริง ๆ

ดุจดวงดาวเกียรติยศ You are my glory / 你是我的荣耀 (2021)

ชื่อเรื่อง : ดุจดวงดาวเกียรติยศ You are my glory / 你是我的荣耀 (2021)
นักแสดง : หยางหยาง, ตี่ลี่เร่อปา
ประเภท : โรแมนติก, ดราม่า, คอมเมดี้
จำนวนตอน : 32 ตอน
ซับไทยถูกลิขสิทธิ์ : Wetv

เรื่องราวโรแมนติกของเฉียวจิงจิง (เล่นบทโดย ตี่รี่เร่อปา) ที่หลงใหลเพื่อนชายคนหนึ่ง อวี๋ถู (เล่นบทโดย Yáng Yáng)
ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เธอแอบหวังว่าวันใดวันหนึ่งเขาจะต้องชอบเธอ กระทั่งเวลาผ่านไป เธอได้เป็นดาราดัง และก็มาเจออวี๋ถูอีกครั้ง ในฐานะผู้ช่วยสอนเกมให้เธอ
และก็ในมาดหนุ่มวิศวกรการบินอวกาศ ความรักของพวกเขาก่อตัวขึ้นมา ด้วยความใกล้ชิด และความพยายามของเฉียวจิงจิง ที่มีใจรักอวี๋ถูไม่เคยเปลี่ยน การคบกันของพวกเขา จะมีอุปสรรค์อะไรมากีดขวาง จะราบรื่นมากแค่ไหน? ต้องค่อยติดตามซีรีส์จีน ดุจดวงดาวเกียรติยศ ทาง Wetv

จากเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่แอบรักเพื่อนผู้ชาย ความรักที่อาจเป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง แต่กับซีรีส์ อย่างไรก็เป็นไปได้เสมอ ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเกี่ยวกับอาชีพของแต่ละตัวละคร ความยากลำบากในการทำงาน พยายามทำความฝัน แต่บางครั้งก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเกินไป บางครั้งต้องทิ้งความฝัน เพื่อใครสักคน ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ถ้าเกิดเป็นงานที่ดี ทำแล้วสบายใจ เท่านั้นก็เกินพอ

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นการโคจรแบบไม่คาดคิด เมื่อYáng Yángพระเอกสุดหล่อหน้าตาดีที่ฮอตที่สุด มาเจอกับนางเอกสาวสวย น่ารักน่าเอ็นดู อย่างตี่ลี่เร่อปา และก็ฮอตที่สุดไม่แพ้พระเอกเหมือนกัน ซีรีส์เรื่องนี้ก็เลยได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาม

เทียบท้าปฐพี Who rules the world / 且试天下 (2022)

ชื่อเรื่อง : เทียบท้าปฐพี Who rules the world / 且试天下 (2022)
นักแสดงนำ : หยางหยาง จ้าวลู่ซื่อ ไล่อี้ เซวียนลู่
ประเภท : การต่อสู้ โรแมนติก
จำนวนตอน : 40 ตอน
ซับไทยถูกลิขสิทธิ์ : WeTv, Netflix

เรื่องราวของสองผู้กล้าที่โด่งดังอันโด่งดังในยุทธภพ จอมยุทธชายหนุ่มผู้สง่างามนามว่า เฮ่ยเฟิงซี (รับบทโดย หยางหยาง) เป็นคนเจ้าวางแผน เก่งทั้งยังวิชาความรู้ แล้วก็มีวรยุทธที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ แล้วก็ไป๋เฟิงซี (รับบทบาทโดย จ้าวลู่ซือ) จอมยุทธหญิงในใต้หล้าที่มีความเก่งแล้วก็มีวรยุทธขั้นสูง หญิงงามผู้รักอิสระ และก็มีจิตใจเมตตาคนอื่น สองผู้กล้าที่มีแนวความคิดเช่นกัน ที่ว่าประชาชนต้องมาก่อน ไม่ว่าใครก็ต้องพ่ายแพ้ต่อพวกเขาสองคน ตัวอย่างเช่นคำที่ว่า “มีไป๋เฟิงซีที่ไหน ที่นั้นต้องมีเฮ่ยเฟิงซี” เรื่องราวความรักท้ามกลางสงคราม ศึกที่เต็มไปด้วยเลือดคราวนี้จะสามารถคว้าแชมป์ได้หรือไม?
สุดท้ายแล้ว เฮ่ยเฟิงซีจะปกป้องรักษาไป๋เฟิงซี ด้วยการเสียวรยุทธของตัวเองหรือไม? ต้องติดตาม และไม่ควรพลาดจริง ๆ

ความรักของพวกเขาสองคน สามารถสร้างรอยยิ้มให้คนดูได้ดีเลยทีเดียว เป็นอีกซีรีส์ของYáng Yáng ที่ติดอันดับแบบโง่หัวไม่ขึ้นจริง ๆ ถึงจะเป็นซีรีส์ย้อนยุค
แต่เมื่อคว้าพระเอกอย่างหยางหยางแล้ว มีหรือที่ผู้เขียนจะพลาด ท้งความหล่อบวกกับรอยยิ้มที่สดใสของYang Yangถึงมีสิ่งกีดขว้างอยู่ข้างหน้าก็ไม่บางทีอาจปกปิดใบหน้าอันหล่อเหลาได้
ติดตามซีรีส์จีนเทียบท้าปฐพีได้ทาง Wetv รับรองว่า…คุณจะหลงYáng Yángแบบไม่มีที่สิ้นสุด

เกียรติยศหน่วยรบพิเศษ Glory of Special Forces / 特战荣耀 (2022)

ชื่อเรื่อง : เกียรติยศหน่วยรบพิเศษ Glory of Special Forces / 特战荣耀 (2022)
นักแสดง : หยางหยาง, หลี่อี้ถง, เกาซิน, เมิ่งอาไซ่
ประเภท : แอ็คชั่น, ทหาร, ดราม่า
จำนวนตอน : 45 ตอน
ช่องทางการรับชม : MonoMax

เป็นซีรีส์ที่ปลดล็อคทุกอย่าง เมื่อหยางหยาง รับบทบาทเป็นทหารเกณฑ์รวมทั้งทนกับปมในอดีตของตน เยี่ยนโพเยว่ (รับบทบาทโดย หยางหยาง) ทหารเกณฑ์ที่คิดว่าตัวเองเก่งตนเองทำได้ คิดว่าตัวเองเก่ง บ้าอำนาจ ทั้ง ๆ ที่ตัวเอง ก็ยังคงอ่อนหัก แล้วก็เพิ่มความบ้าเข้าไปอีกเมื่อ เซียวหยุนเจี๋ย (รับบทบาทโดย เมิ่งอาไซ่ ) เพื่อนของเข้าสมัยเรียน เข้ามาเป็นทหารกับเขา เป็นเพื่อนที่ค่อยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน วันหนึ่งพวกเขาทำนอกจากคำสั่ง เข้าไปปลอมตัวเป็นหน่วยรบพิเศษ พวกเขาเลยถูกลงโทษให้ทำอาหารในโรงครัว แต่เยี่ยนโพเยว่ ก็ยังพยายามฝึกฝนด้วยตัวเองตลอดเวลา
กระทั่งหัวหน้าต้องมาสั่งสอน ให้ใช้สติปัญญา มากกว่าอารมณ์

เป็นข้อความสำคัญร้อนแรงบนโซเชียล สำหรับ “บิว จักรพันธ์ พุทธา” นักแสดงนำ KinnPorsche The Series เมื่ออดีตแฟนสาว
ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความเกี่ยวข้อง แล้วก็พฤติกรรมที่มีการปองร้าย คบซ้อน นำสิ่งของแล้วก็เงินไปให้กับบุคคลอื่น…

ด้านต้นสังกัดของหนุ่มบิว KinnPorsche

ได้มีการออกหนังสือถึงเรื่องดังกล่าว ว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอเวลาตรวจทานข้อพิสูจน์กับทั้งสองฝ่าย เรื่องความขัดหน้าแข้งนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของทั้งสอง

และในเวลาต่อมา สังกัดได้ออกหนังสืออีกฉบับประกาศพักงาน “บิว จักรพันธ์ พุทธา” มีเนื้อความว่า”นอกเหนือจากประกาศฉบับก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการสอบสวนข้อพิพาทระหว่างนายจักรพันธ์ พุทธา (บิว) และนางสาว……..(ปอย) บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันเกี่ยวกับมติของบริษัทฯ ให้มีการพักงาน จักรพันธ์ จากงานและกิจกรรมทั้งหมด

โดยที่ จักรพันธ์ จะถูกพักงานทั้งหมดโดยไม่มีกำหนด ที่สำคัญที่สุด จักรพันธ์ จะไม่มีส่วนร่วมในโปรเจกต์ใด ๆ ก็ตามของบริษัทฯ ทำดำเนินอยู่ ณ ขณะนี้โดยให้มีผลในทันที เขาจะใช้เวลาในระหว่างนี้หยุดเพื่อไตร่ตรองรวมทั้งทวนอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการกระทำของตนเอง แล้วก็จัดการกับข้อพิพาทและก็คดีของเขา การพักงานจะมีผลจนกว่าข้อโต้แย้งจะได้รับการแก้ไข้และก็ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ถ้าหากทางบริษัทฯ มีแนวทางเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับเรื่องนี้จะดำเนินการแจ้งให้สาธารณะชนทราบในภายหลังโดยเร็วที่สุด”

นอกเหนือจากนี้ ช่องทางโซเชียลส่วนตัวของหนุ่ม “บิว จักรพันธ์” ก็ได้มีการปิดการใช้ทางในทุก ๆ ช่องทางอีกด้วย…

ทำความรู้จัก “บิว จักรพันธ์” หรือ “พีท” หัวหน้าบอดี้การ์ดสุดฮอตจากซีรีส์ KinnPorsche The Series

“บิว จักรพันธ์ พุทธา” หรือ “พีท” หัวหน้าบอดี้การ์ด ใน KinnPorsche The Series ซึ่งเป็นอีกตัวละคร ที่แฟนคลับต่างพากันเทใจให้กับเสน่ห์แล้วก็ความน่ารัก สำหรับ บิว จักรพันธ์ พุทธา หนุ่มหน้าใสที่มาสวมบท พีท หัวหน้า บอดี้การ์ดของตระกูลหลัก โดยประกบคู่กับ ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส สุเมตติกุล กับบท เวกัส ในซีรีส์ วาย แนว แอ็กชัน เรื่อง KinnPorsche The Series (คินน์ พอร์ช เดอะซีรีส์) ผลิตโดย บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด งานนี้ ทีมผู้กำกับ โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ, ปอนด์ กฤษดา วิทยาขจรเดช และก็ เป๊ปซี่ บัญชร วรเศรษฐ์อารี ขอจัดเต็ม ส่งบทแอ็กชันสุดมันให้กับ บิว ได้แสดงฝีมือแบบนันสต็อป เพื่อเติมเต็มความฝันที่เจ้าตัวต้องการเล่นบทบู๊ แอ็กชัน สักครั้งในชีวิต!!

ชื่อ-สกุล : บิว จักรพันธ์ พุทธา
วันเกิด : 4 มิถุนายน 2537
น้ำหนัก : 63 กก. ส่วนสูง : 176 cm.
การศึกษา : ปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์
ผลงาน : ละคร ตราบาปสีชมพู ,เหยื่อพยาบาท, Kinn Porsche The Series รับบท เวกัส
IG : buildurluve

บิว จักรพันธ์ กล่าวว่า

“รู้สึกท้าทายและดีใจมากครับ ที่ได้ทำตามฝัน ได้มาเล่นบทบู๊แอ็กชันเรื่อง KinnPorsche The Series (คินน์ พอร์ช เดอะซีรีส์) เหมือนตัวเองได้อัพสกิล ได้ก้าวไปอีกขั้นเลยครับ รู้สึกภูมิใจกับการแสดงเรื่องนี้มาก ด้วยบทบาทหัวหน้าบอดี้การ์ดที่ผมได้รับ ทำให้ต้องทำการบ้านเยอะมาก ทั้งเรื่องการแสดง ทั้งเรื่องของวินัยในการเข้าฟิตเนส เพื่อฟิตหุ่น ด้วยความที่ไม่ได้เป็นคนออกกำลังกายหนัก ๆ มาก่อน พอได้กลับมาดูแลรักษาร่างกายครั้งใหญ่ ข้อดีคือทำให้รู้สึกรักตัวเองมากขึ้น และสุขภาพก็ดีมากขึ้นเช่นกันครับ เรียกว่าความฟิตแอนด์เฟิร์ม แตกต่างจากวันแรกที่ได้ไปเรียนการต่อสู้ บอกตรง ๆ ว่าวันนั้นแทบแย่เลยครับ ด้วยความที่ผมไม่เคยเจออะไรขนาดนี้มาก่อน ถึงขนาดต้องยกมือบอกครูว่า ขอเวลาสักครู่นะครับ ไม่ไหวจริง ๆ ต้องขอพักหายใจสักนิด
ด้วยบทบาทที่ต้องเจอศึกหนักกว่าใคร และในคิวบู๊ ที่เราอยากเล่นจริง ก็เลยเจ็บจริง นับสถิติจากทั้งกองถ่าย ดู ๆ แล้ว ผมน่าจะเป็นคนที่เข้าฉากแล้วเกิดแอ็กซิเดนท์มากที่สุด ซึ่งเวลาเข้าฉากบู๊ต่าง ๆ ทั้งทีมงานและนักแสดงทุกคนก็จะคอยช่วยกันเซฟ ช่วยกันระมัดระวังขั้นสุดกันอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีจังหวะเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พลาดกันได้ แต่สุดท้ายด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกฝ่าย ฉากยาก ๆ ที่ต้องต่อสู้กันยาวนาน ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ต้องขอบคุณพี่ ๆ ทีมสตั้นท์ทุกคน ที่ช่วยซัพพอร์ต และให้วิชาในการต่อสู้นี้มานะครับ ซึ่งพอซีรีส์ออนแอร์ไปแล้ว การได้เห็นฟีดแบ็ก ดี ๆ จากแฟน ๆ กระแสตอบรับออกมาดี สมกับความทุ่มเทของทีมงานทุกคนเลยครับ แถมยอดฟอลโล่ในช่องทางโซเชียลมีเดียของผม ทาง อินสตราแกรมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บอกเลยว่าผมหายเหนื่อยเลยครับ ยังไงผมก็อยากฝากซีรีส์ไว้ด้วยนะครับ KinnPorsche The Series (คินน์ พอร์ช เดอะซีรีส์) สามารถรับชม ได้ที่ ช่อง One31 ทุกวันเสาร์ เวลา 23.00 น.”

ชวนมาติดตามแอร์พอร์ตลุคของซุปตาร์ชายหนุ่มฮอตแห่งวงการเพลงเคป็อปที่ปัจจุบัน ตบเท้าลัดฟ้าสู่กรุงปารีสเพื่อร่วมอีเวนต์แฟชั่นระดับโลก!!

เรียกว่าเวลานี้ถนนทุกสายมุ่งสู่มหานครปารีส นครหลวงแห่งแฟชั่น ณ ดินแดนน้ำหอมฝรั่งเศส
เมื่อปัจจุบันปรากฎภาพของทัพศิลปินไอดอลเคป็ฮปตัวท็อปที่สนามบินนานาชาติอินชอน เพื่อลัดฟ้าเข้าร่วมงานปารีสแฟชั่นวีค (Paris Fashion Week) กันแบบรัว ๆ

โดยคนปัจจุบันเริ่มเดินทางเมื่อช่วงสาย (18 ม.ค. 65) ก็คือ “จีมิน BTS” (Jimin)

แจ็คเก็ตกันหนาวสีเขียวครีมจับคู่กางเกงเดอนิมกับหมวกบินนี่สีดำและก็แว่นเลนส์สีชมพูสดใส แน่นอนว่า Paris Fashion Week คราวนี้ “จีมิน” จะเป็นหนึ่งในตัวเด่นของแฟชั่นโชว์เปิดคอลเลกชั่นใหม่ของแบรนด์ “ดิออร์” (Dior) หลังจากพึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็น Global Brand Ambassador คนใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 มกราคม 66)

อีกหนึ่งคนมาในลุคที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเป็นต้นว่า สำหรับ “เจโฮป BTS” (J-Hope)

ออกเดินทางไปก่อนหน้า “จีมิน” เพื่อนร่วมวงราว 2-3 ชั่วโมง โดย “พี่โฮป” ของแฟนคลับมาในสเว็ตเตอร์สีขาวครีมพิมพ์ลายการ์ตูนแสนสดใส จับคู่กางเกงเดอนิมโทนสีน้ำเงินอมม่วงและหมวกสีดำ เมื่อรวมเข้ากับลีลาแดนซ์เดินมาหากล้องสื่อรวมทั้งแฟน ๆ ก็ทำเอาแฟนคลับอดยิ้มไม่ได้ทุกครั้งที่เจอชายหนุ่มคนนี้

ส่วนอีก 2 คนที่ออกเดินทางไปในตอนเวลาไล่เลี่ยกัน

ยังมี “โฮชิ SEVENTEEN” (Hoshi) ตี๋กิมจิสุดคิวต์ที่มาในโค้ทกันหนาวตัวยาวสีขาวครีม ส่งยิ้มและมอบหัวใจให้แฟน ๆ ไม่หยุด

และก็ “แทยัง BIGBANG” (Taeyang) ไอดอลรุ่นพี่และเดี๋ยวนี้
เป็นคุณพ่อลูกอ่อน มาในลุค All Black ดำทั้งยังสุดรวมถึงกระเป๋าและก็แว่นกันแดด ตัดฉบับกับผมสีบลอนด์ทองคำ บอกเล่นว่า Paris Fashion Week ทางฝั่งแฟชั่นบุรุษปีนี้ฮอตไม่ไหว แฟน ๆ รอติดตามกันได้เลย

 

จีมิน BTS ได้รับเลือกเป็น Global Ambassador คนล่าสุดของแบรนด์ Dior

Dior ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการผ่าน Instagram แต่งตั้งให้ จีมิน BTS ขึ้นเป็น Global Ambassador คนปัจจุบันของแบรนด์ ซึ่งถือเป็นการเดินหน้าสานต่อมิตรภาพระหว่าง คิม โจนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นบุรุษ ที่เคยออกแบบชุดบนสเตจในปี 2019 ให้กับเหล่าหนุ่ม ๆ BTS

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา Dior ได้โพสต์ภาพผ่านบัญชีทางการ พร้อมแนะนำ จีมิน BTS ในฐานะ Global Ambassador คนใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ที่น่าประทับใจรวมทั้งเป็นที่จำไปทั่วโลก

โดย จีมิน BTS ได้สวมลุคชายหนุ่มสปอร์ตสายลุย หลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมแสดงถึงเสน่ห์อันทรงพลังแล้วก็ภาพจำที่น่าดึงดูด ผ่านชุดคอลเล็กชั่น #DiorSummer23 ซึ่งออกแบบโดย คิม โจนส์ ส่งตรงถึงเหล่า ๆ แฟนได้อย่างลักชูรี่และมีสไตล์

ในขณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จีมิน BTS ได้ร่วมโซโล่ในอัลบั้มชุดใหม่ของ แทยัง BIGBANG ในชื่อ “VIBE” ซึ่งกวาดชาร์ต iTunes ไปทั่วทั้งโลก
โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า จีมิน BTS จะปล่อยอัลบั้มเดี่ยวในเดือนหน้า แต่ทางต้นสังกัดได้เผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“กำหนดการปล่อยเพลงจะถูกเปิดเผยอีกครั้งเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว”

เรื่องน่าสนใจของ Jimin นางฟ้าและก็ผู้จุดความสว่างแก่ BTS

• ปาร์ค จีมิน (Park Ji Min) หรือที่แฟนคลับรู้จักกันในนาม จีมิน (Jimin)
• เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ปี 1995
• เป็นนักร้อง, นักแต่งเพลง และนักเต้นชาวประเทศเกาหลีใต้ แล้วก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของวงบอยแบนด์มีชื่อเสียง BTS สังกัดค่าย Big Hit Music
• จีมิน ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกของ BTS ในวันที่ 13 มิถุนายน ปี 2013 ด้วยการปล่อยซิงเกิ้ล “No More Dream” โดยในวง BTS นั้นทาง จีมิน อยู่ในตำแหน่งของนักร้องแล้วก็นักเต้น ซึ่งเขาได้ปล่อยเพลงเดี่ยวออกมา 3 เพลงกับวง BTS คือเพลง “Lie” จากอัลบั้ม Wings (2016), “Serendipity” จากอัลบั้ม LOVE YOURSELF 承 ‘Her’ (2017) แล้วก็ “Filter” จากอัลบั้ม Map of the Soul: 7 (2020) และในเดือนพฤษภาคม ปี 2019 มิวสิควิดีโอเพลง “Serendipity” นี้ก็ได้ทำให้ จีมิน กลายเป็นสมาชิกวง BTS คนแรกที่มีมิวสิควิดีโอเพลงเดี่ยวที่ทำยอดวิวบน YouTube มากถึง 100 ล้านวิว

ทำลายกรอบเรื่องเพศ สร้างแรงบันดาลใจให้แฟน ๆ
จีมิน (Jimin) BTS ถูกพูดถึงในบทความของนิตยสาร Harper’s Bazaar ญี่ปุ่น “ยุคที่ผู้ชายก้าวข้ามขอบเขตและสวมใส่ต่างหู”

บทความดังกล่าวพูดถึงปีที่ผ่าน ๆ มา เรื่องค่านิยมของความเป็นชายที่ผ่อนลง แบรนด์ดังอย่าง Chanel ก็ขายเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายแล้ว ในขณะที่ Gucci แล้วก็ Balenciaga ได้แนะนำเครื่องประดับอัญมณีให้กับลุคการแต่งตัวของผู้ชาย หลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มที่จะทำลายกรอบของเพศชายเหมือนกัน จีมินถูกพูดถึงร่วมกับคนมีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักบุคคลอื่น อาทิเช่น Harry Styles รวมทั้ง Nick Jonas ในเรื่องการใส่ตุ้มหู

คำพูดจาก ‘คุณพ่อของ จีมิน BTS’ ที่เลือกสนับสนุนความฝันของลูกชายอย่างสุดความสามารถ

เป็นที่รับทราบกันเป็นอย่างดีในทั่วทุกมุมโลกแล้วว่า ศิลปินเคป๊อปที่มีนามว่า ‘BTS’ นั้นมีทั้งอิทธิพล ความสามารถ และกระแสความโด่งดังที่แพร่กระจายไปในสังคมของแต่ละประเทศอย่างกว้างขวางมากขนาดไหน แต่อย่างไรก็ดี กว่าที่สมาชิกแต่ละคนของวง ‘BTS’ จะกลายมาเป็นปัจจุบันอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้นั้น แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวเบื้องหลังของการได้มาซึ่งโอกาสในการเดบิวต์ในฐานะไอดอลเคป๊อปจากวงการบันเทิงประเทศเกาหลีใต้ ที่เรียกได้ว่าเป็นด่านทดสอบที่โหดหิน และยากลำบากแบบสุด ๆ ที่เด็กธรรมดาคนหนึ่งต้องพยายามอย่างสุดความสามารถที่มี เพื่อฝ่าฟันไปให้จงได้

และในวันนี้ หนึ่งในผู้ปกครองของศิลปินเคป๊อป ที่สามารถเอาชนะอุปสรรค ขวากหนาม และความยากลำบากต่าง ๆ ไปได้ และได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินเคป๊อปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบัน อย่าง ‘คุณพ่อของจีมิน’ หนึ่งในสมาชิกวง ‘BTS’ นั้นก็ได้ร่วมนั่งจับเข่า พูดคุยสัมภาษณ์กับทีมงานฝ่ายนิตยสารของ ‘Busan High School of Arts’ หรือโรงเรียนที่ ‘จีมิน’ เคยศึกษาอยู่ก่อนหน้าการย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโซล เกี่ยวกับ ‘ความฝันในการเป็นศิลปินเคป๊อป’ ของลูกชายของเขา

เริ่มแรก ทางทีมงานได้เริ่มเอ่ยปากถาม ‘คุณพ่อของจีมิน’ เกี่ยวกับ ‘ทักษะความสามารถ’ ของลูกชายของเขาว่ามีรายละเอียดความเป็นมาอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อสงสัยที่ว่า สิ่งใด หรือเหตุผลอันใดที่ทำให้เด็กชายคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ และทักษะความชำนาญด้านการเต้นรำแบบ ‘Modern Dance’ กลายมาเป็นเด็กชายที่สนใจในโลกของ ‘เคป๊อป’

ในกรณีนี้ ‘คุณพ่อของจีมิน’ ได้ให้คำตอบว่า

“อย่างแรกเลย ขอให้ผมได้เล่าก่อนว่าทำไม พวกเราถึงตัดสินใจที่จะรับฟัง และตอบรับต่อความต้องการของ ‘จีมิน’ ที่ในขณะนั้นมีความต้องการที่จะเข้าศึกษาที่ ‘Busan High School of Arts’ เอามาก ๆ นะครับ – ณ ตอนนั้น อายุของ ‘จีมิน’ ถือว่าอยู่ในช่วงสุดท้ายของการเป็นนักเรียนมัธยมปีที่ 2 (ม. 2 หรือ Middle School) แล้วครับ ซึ่งในตอนนั้น ‘จีมิน’ ก็ได้ทำการเขียนเรียงความบอกเล่าเกี่ยวกับความต้องการในอนาคตของเขา และนำมาให้พวกเรา (คุณพ่อ และคุณแม่) ดูครับ”

“ในกระดาษแผ่นนั้น เขาได้แสดงออกถึงความต้องการว่า หลังจากนี้ เขาต้องการเรียนการเต้นแบบ ‘Modern Dance’ (ในช่วง High School) เพื่อที่จะได้นำความรู้เกี่ยวกับ ‘Modern Dance’ มาประยุกต์เข้ากันกับ ‘(ความเป็น) เคป๊อป’ หรือสิ่งที่เขากำลังให้ความสนใจอย่างมากที่สุด

สุดท้าย ‘จีมิน’ ได้ทำการสรุปถึงความต้องการในอนาคตของเขาว่า ‘เขาต้องการที่จะเป็นไอดอลเคป๊อป’ ในสักวันหนึ่ง”

ยิ่งไปกว่านั้น ‘คุณพ่อของจีมิน’ ยังได้กล่าวอีกว่า

“ตั้งแต่เด็ก ๆ มาแล้วครับ ที่ ‘จีมิน’ สามารถทำได้ดีทั้งในเรื่องของการร้องเพลง และการเต้น ผมยังจำได้เป็นอย่างดีเลยครับถึงในช่วงตอนที่ ‘จีมิน’ อยู่ ป. 5 ผมยังจำได้อย่างขึ้นใจเลยว่า ‘จีมิน’ สามารถร้องเพลง ‘Azalea’ โดยศิลปินที่มีชื่อว่า ‘Maya’ ได้อย่างไพเราะมากขนาดไหน”

แต่อย่างไรก็ตาม ‘คุณพ่อของจีมิน’ ได้เปิดเผยว่า ตัวเขาเองในตอนนั้นมีเพียงความต้องการที่จะให้ ‘จีมิน’ สนใจ และตั้งใจกับการเรียนหนังสือเท่านั้น โดยบอกเล่าผ่านคำพูดว่า

“ผลการเรียนของ ‘จีมิน’ นั้นอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพราะแบบนั้น ผมเลยคาดหวังอยากให้ ‘จีมิน’ เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนที่เน้นการศึกษาแบบเฉพาะทาง (Science High School) มากกว่าครับ”

ถึงแม้จะวาดฝันไว้แบบนั้น แต่ ‘คุณพ่อของจีมิน’ ก็ไม่ได้ปฏิเสธความฝันของลูกชายแต่อย่างใด

“ผมไม่ได้คัดค้านการทำตามความฝันของ ‘จีมิน’ ผมไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย เพราะในกระดาษแผ่นนั้น ‘จีมิน’ ได้เขียนบอกเล่าทุกรายละเอียดอย่างครบถ้วนถึงความต้องการส่วนตัว และวิธีการที่ตัวเขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ได้มาซึ่งความต้องการดังกล่าวนั้น ‘จีมิน’ เป็นเด็กที่ทั้งสุภาพ และมีความคิดที่โตเกินวัยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะเชื่อว่า ‘จีมิน’ นั้นได้คิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะให้การสนับสนุนลูกชายของผมในการเดินบนเส้นทางความฝันของเขาครับ”

“จองกุก” เผยออกมาว่าในบรรดาเด็กฝึกฝนทั้งหมด “จีมิน” คือเด็กฝึกฝนที่ทำงานอย่างหนักมากที่สุด

‘BTS’ ได้มาร่วมแสดงตัวในฐานะแขกรับเชิญของรายการ You Quiz on the Block
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. หนึ่งในหัวข้อการกล่าวคุยที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาบรรยายภายในรายการก็คือ เรื่องราวเมื่อในครั้งอดีต
ที่สมาชิกทุกคนของวงยังเป็นเพียงแต่เด็กฝึกหัดที่ต้องซ้อมอย่างหนัก เพื่อได้มาซึ่งโอกาสในการเดบิวต์เป็นหนึ่งในวงไอดอลจากโลกเคป๊อปนั่นเอง

ในกรณีนี้ ‘จีมิน’ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องราวในขณะเป็นเด็กฝึกว่า
ตัวเขานั้นได้ใช้เวลาทั้งสิ้นราว ๆ 6 เดือนเท่านั้น ในการฝึกซ้อมก่อนที่จะได้รับโอกาสในการเดบิวต์

โดย ‘จีมิน’ ได้กล่าวว่า :

“เป็นเรื่องจริงนะครับ ที่หากพูดถึงช่วงระยะเวลาในการเป็นเด็กฝึกหัดแล้ว ผมมีช่วงระยะเวลาในการเป็นเด็กฝึกหัดที่สั้นกว่าเด็กฝึกหัดหลาย ๆ คนโดยทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม ความยากลำบากที่ผมต้องเผชิญนั้นมันก็ไม่ได้ง่าย หรือน้อยกว่าใคร ๆ เลยครับ ในตอนนั้น ผมคิดแค่เพียงว่าผมต้องทำให้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมกลับไม่รู้เลยว่าผมจะทำมันได้ยังไง หรือผมควรจะต้องเริ่มจากตรงไหน”

ในกรณีนี้ ‘จองกุก’ ที่นั่งฟังคำบอกเล่าของ ‘จีมิน’ อยู่ข้าง ๆ จึงได้กล่าวออกมาว่า “เขา [‘จีมิน’] มักจะเข้มงวดกับตัวเองอยู่เสมอครับ ท่ามกลางเด็กฝึกหัดทั้งหมด ‘จีมิน’ คือคนที่ทำงานหนักมากที่สุดเลยครับ มันเหมือนกับว่าเขาใช้เวลานอนของเขาไปกับการฝึกฝน ‘จีมิน’ คือเด็กฝึกหัดที่ตื่นเช้าที่สุด และเป็นคนสุดท้ายที่จะไปนอนพักผ่อนเสมอครับ”

เมื่อได้ฟังดังนั้น บรรดาพิธีกรประจำรายการก็เลยได้สอบถาม ‘จีมิน’ เกี่ยวกับระยะเวลาในการพักผ่อนของตัวเขา ทำให้ ‘จีมิน’ ได้ให้คำตอบกลับไปว่า “ผมมักจะเข้านอนตอนประมาณตี 4 ครับ รวมทั้งเวลาประมาณ 6:30 ก็คือช่วงเวลาที่ผมจะตื่นในตอนเช้าครับ ในช่วงชีวิตการเป็นเด็กฝึกหัดของผม ผมดำรงชีวิตแบบนั้นครับ”

ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบจากปากของ ‘จีมิน’ นั้นได้สร้างความตกใจอย่างมากให้กับสองพิธีกรผู้ดำเนินรายการ จนกระทั่งเป็นผลให้ ‘ยู แจซอก’ ได้ถาม ‘จีมิน’ ต่อไปอีกว่า
“นั่นมันยากมาก ๆ เลยไม่ใช่เหรอครับ!? คุณไม่รู้สึกเหนื่อยเหรอครับ?”

แล้วก็เมื่อได้ยินด้วยเหตุดังกล่าว ‘จีมิน’ ก็เลยได้ให้คำตอบกลับไปว่า

“ที่จริงแล้ว ในเวลานั้น มันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นนะครับ ผมมีความคิดถึงขนาดที่ว่า
หรือเราควรนอนพักในห้องซ้อมไปเลยนะ? ด้วยครับ เพราะเหตุว่าแบบนั้น สุดท้ายแล้วผมจึงไปซื้อฟูกมาไว้ แล้วก็เลือกที่จะนอนหลับ พักในห้องซ้อมแทนในหลาย ๆ ครั้งครับ”

และสุดท้าย ‘จีมิน’ ยังได้กล่าวปิดท้ายบทสนทนาในประเด็นดังกล่าวนี้อีกด้วยว่า

“สมาชิกคนอื่น ๆ เองก็ให้การช่วยเหลือผมอย่างดีมาก ๆ เช่นกันนะครับ
พวกเขามักจะบอกกับผมเป็นประจำว่า ‘พวกฉันเองก็ไม่ได้เก่ง หรือเพอร์เฟคอะไรเลยนะ นายอย่ากังวลไปเลย พวกเราทุกคนจะต้องผ่านมันไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน’ ด้วยครับ
และแน่นอนว่า คำบอกเล่าพวกนั้นมันไม่เพียงแต่แต่ปลอบประโลมผมเท่านั้น แต่มันยังเป็นเหมือนแรงกระตุ้นที่ช่วยทำให้ผมมุ่งตรงถัดไปข้างหน้าได้อีกด้วยครับ”

ทั้งนี้ ภายหลังระยะเวลาการฝึกฝนเพียง 6 เดือน ‘จีมิน’ ก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง ‘BTS’ ที่ซึ่งได้รับการเปิดตัวต่อหน้าสาธารณะชนอย่างเป็นทางการเมื่อในเดือนมิถุนายน ของปี 2013

เตนล์-ชิตพล ลี้ชัยพรกุล หนุ่มไทยสมาชิกวง NCT, WayV และก็ SuperM เดินทางไปร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นมีชื่อเสียงของโลกอย่าง Saint Laurent (YSL) ในงานสัปดาห์แฟชั่นปารีส ประเทศฝรั่งเศสและก็ถือว่าเป็น เตนล์ NCT เมมเบอร์คนแรกของวง NCT ที่ได้รับเชิญไปร่วมในงานนี้

เตนล์ แสดงตัวในลุค All Black สุดเท่

สวมสเวตเตอร์สีดำ ทับด้วยแจ็กเกตขนสัตว์สีดำกางเกงทรงแครอตสีดำ เสริมความความงามสง่าด้วยรองเท้าบูทหนัง
รวมทั้งเพิ่มลูกเล่นด้วยกระเป๋าทรง Take Away Box ที่แฟน ๆ ต่างลงความคิดเห็นว่า เตนล์ แล้วก็ลุค All Black เข้ากันสุด ๆ พร้อมด้วยพา #TENtoParisFashionWeek ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยต่อเนื่องตลอดวัน สำหรับกิจกรรมที่ เตนล์ จะได้ทำระหว่างอยู่ที่กรุงปารีสครั้งนี้

คือร่วมชมแฟชั่นโชว์ในคอลเล็กชั่นใหม่ ของแบรนด์ Saint Laurent (YSL)
หลังจากปีที่ผ่านมา 2 สมาชิกในวงอย่าง แจฮยอน แล้วก็ เจโน่ ก็เคยเฉิดฉันรวมทั้งสร้างความประทับใจบนรันเวย์ที่มิลาน และนิวยอร์กมาแล้ว

ส่องประวัติ เตนล์ NCT ไอดอลไทยคนแรกในค่าย SM

สาว ๆ คนไหนที่พึ่งโดนความน่ารักน่าเอ็นดูของหนุ่มเตนล์
ตกไปสด ๆ ร้อน ๆ และก็เริ่มอยากทำความรู้จักเขาคนนี้ให้มากขึ้น ก็ตามไปส่องประวัติของไอดอล หนุ่มสุดฮอตคนนี้กันได้เลย !

เตนล์
ชิตพล ลี้ชัยพรกุล
เกิดวันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2539
เกิดที่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
การศึกษา : โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี
อาชีพ : นักร้อง , นักเต้น , แร็ปเปอร์
วง : NCT / WayV
ปีที่เข้าวงการ : ปี 2556
ค่ายเพลง : SM Entertainment
ช่องทางการติดตาม Instagram : tenlee_1001

เดี๋ยวนี้ เตนล์เป็นไอดอลประเทศเกาหลีสายเลือดไทย

ที่ทำงานอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ และก็จีน
ภายใต้การดูแลของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลี อย่าง SM Entertainment เตนล์ ได้เดบิวต์ร่วมกับวงบอยแบนด์ประเทศเกาหลีใต้มีชื่อเสียง อย่าง NCT เมื่อปี 2559 กับยูนิตที่มีชื่อว่า NCT U รวมทั้งเปิดตัวเป็นสมาชิกของ ยูนิต WayV (เวย์วี) ในประเทศจีน เมื่อปี 2562 ทั้งยังยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของวง SuperM อีกด้วย

เตนล์ เริ่มสนใจการเต้นจากการดูการแสดงดนตรีของวงบอยแบนด์โด่งดัง Super Junior โดยในปี 2553 เตนล์ ก็ได้เข้าร่วมออดิชั่นกับค่ายเพลงเกาหลีใต้ อย่าง YG Entertainment และผ่านรอบออดิชั่นไปในที่สุด แต่เพราะว่าขณะนั้นทางครอบครัวของ เตนล์ ต้องการให้เจ้าตัวนั้นศึกษาถึงแม้ว่าจะจบก่อน ทำให้ เตนล์ ต้องสละสิทธิ์นั้นไปอย่างน่าเสียดาย

ต่อมา เตนล์ ก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ Teen Superstar ภายใต้สเตจเนม TNT จนสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์มาได้ แล้วก็ได้โอกาสในการเซ็นสัญญากับทางค่ายเพลงประเทศเกาหลี อย่าง Starship Entertainment แต่เพราะติดปัญหาบางประการทำให้ เตนล์ ต้องสละสิทธิ์นั้นไปอีกครั้ง แต่ความฝันการเป็นไอดอลประเทศเกาหลีของหนุ่มเตนล์ ยังไม่จบลง เพราะว่าในปี 2556 เตนล์ ได้เข้าร่วมการออดิชั่นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวมุ่งเป้าหมายไปที่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ อย่าง SM Entertainment และก็สุดท้าย เตนล์ ก็ได้ผ่านการออดิชั่นของค่าย และก็เข้าร่วมเป็นศิลปินฝึกฝนในกลุ่มของ SM Rookie แต่เวลานี้ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

รวมทั้งแล้วเส้นทางในการเป็นไอดอลศิลปินประเทศเกาหลีของ เตนล์ ชิตพล ก็ได้เริ่มขึ้น !

เตนล์ ถูกแนะนำผ่านสื่อครั้งแรกในฐานะ SM Rookie เมื่อวันที่ 23 เดือนธันวาคม ปี 2556 แล้ววันที่ 9 เดือนเมษายน ปี 2016 เตนล์ ก็ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกของ NCT ในยูนิตที่มีชื่อว่า NCT U ร่วมกับสมาชิกอีก 4 คนได้แก่ แทยง , โดยอง , แจฮยอน แล้วก็ มาร์ค พร้อมกับปล่อยซิงเกิ้ลเดบิวต์ The 7th Sense

ในปี 2559 เตนล์ ได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ Hit the Stage ของช่อง Mnet และได้รับความมีชัยในการชิงชัยตอนที่ 6 ของรายการ
ในชื่อโชว์ Uniform และก็ในปี 2560 SM ได้ปล่อยเพลงในโปรเจ็กต์ SM STATION แรกของ เตนล์ ออกมา มีชื่อเพลงว่า Dream in a Dream และก็ปล่อยมิวสิกวิดีโอ
ให้ได้ดูในวันที่ 7 เมษายน ปี 2560 ซึ่งเพลงนี้ของ เตนล์ นับว่าเป็นเพลงที่ 2 ในโปรเจ็กต์ SM STATION 2
รวมทั้งในวันเดียวกันนั้น SM ก็ออกประกาศว่า เตนล์ จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมเพอร์ฟอร์แมนซ์ของบริษัท ในนาม SM The Performance

ในปี 2561 SM ได้ประกาศโปรเจ็กต์ NCT 2018 ซึ่งก็มีผลงานของ เตนล์ อยู่ในไตเติ้ลแทร็กที่ 2 ในชื่อเพลงว่า Baby Don’t Stop แล้วก็เป็นการดูเอ็ตกันระหว่าง แทยง และก็ เตนล์ ซึ่งเป็นการคัมแบคของ เตนล์ ในรอบ 1 ปี 10 เดือน อย่างเป็นทางการในฐานะ NCT รวมทั้งอีกหนึ่งเพลงคือ Black On Black

ในปีเดียวกัน เตนล์ ได้ปล่อยโซโล่ภายใต้โปรเจ็กต์ SM STATION อีกทีในเพลง New Heroes ซึ่งก็ได้รับความนิยมชมชอบรวมทั้งกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนคลับเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลง New Heroes สามารถไต่ชาร์ตขึ้นเป็นอันดับที่ 4 ของชาร์ต Billboard’s Word Digital Song Sales ได้สำเร็จ

ต่อมา เตนล์ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในนามวง WayV บอยแบนด์จีนที่จะทำการโฆษณากิจกรรมวงอีกทั้งในประเทศจีนรวมทั้งประเทศเกาหลีใต้
โดย WayV เป็นยูนิตย่อยที่ 4 ของวง NCT แล้วก็จะทำกิจกรรมโปรโมทผ่านการดูแลของ Label V ซึ่งเป็นค่ายเพลงย่อยของ SM Entertainment

WayV ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งยัง 7 คน ได้แก่ คุน , วินวิน , ลูคัส , เซียวจวิ้น , เฮนเดอรี , หยางหยาง รวมทั้งเตนล์ หนึ่งในเมมเบอร์ไทย เดบิวต์วงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มกราคม ปี 2019 กับการเปิดตัวมินิอัลบั้ม EP, The Vision มาพร้อมเพลงโปรโมทอย่าง Regular ซึ่งเป็นเพลงเดียวกับที่ใช้ใน NCT 127 แต่เป็นเวอร์ชั่นภาษาจีน

ในปี 2562 เตนล์ เข้าร่วมทำกิจกรรมภายใต้วง SuperM ซึ่งเป็นวง K-pop supergroup ที่ SM Entertainment ร่วมมือกับ แคปิตอลเรคิดส์ SuperM เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ตุลาคม 2562 มีสมาชิกจากค่ายที่เข้าร่วมทั้งหมด 7 คน ได้แก่ แทมิน จากวง SHINee , แบคฮยอน แล้วก็ ไค จากวง EXO , แทยง และ มาร์ค จากวง NCT127 , เตนล์ และ ลูคัส จากวง WayV ซึ่งได้ปล่อยอัลบั้มเดบิวต์ชุดแรกของวง The 1st Mini Album ‘SuperM’ ออกมาในวันที่ 4 ตุลาคม ปี 2562 รวมทั้งกลายเป็นกลุ่ม K-POP กลุ่มแรกที่ติดอันดับหนึ่งใน Billboard 200 ด้วยอัลบั้มเปิดตัว

ในปี 2564 เตนล์ ได้ปล่อยผลงานโปรเจ็กต์ซิงเกิลออนไลน์ SM Station

ในเพลง Paint Me Naked และก็สามารถขึ้นครองอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes ทั้งยัง 16 ประเทศได้ในเวลาอันรวดเร็ว รวมทั้งมิวสิควิดีโอที่ทำยอดวิว 2 วันไปเกือบ 4 ล้านครั้ง เผยให้เห็นถึงความชื่นชอบของ เตนล์ ที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมภายใต้วง , ยูนิต รวมถึงผลงานโซโล่ ก็ได้รับความรักจากแฟนคลับอยู่ทั่วทุกมุมโลกเสมอ แล้วก็ในปี 2565 เตนล์ ได้แสดงตัวใน Great Dance Crew รายการบันเทิงวาไรตี้ทีมสตรีทแดนซ์หญิง ที่ผลิตรายการโดย Youku ซึ่งถ่ายทำในประเทศจีน เตนล์ สู้หน้าที่เป็นกรรมการตัดสินทีมเต้น ซึ่ง เตนล์ ก็ทำหน้าที่เป็นกรรมการ รวมถึงเป็นที่ขอคำแนะนำด้านการเต้นที่ดีให้กับลูกทีม

เตนล์ ได้แสดงให้มองเห็นถึงความชำนาญรอบด้าน และการเต้นที่หลากหลายสไตล์ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนถึงลูกทีมในรายการต่างประทับใจแล้วก็ชื่นชมในความสามารถของเตนล์ กันยกใหญ่ ซึ่งตลอดระยะเวลาการออกอากาศของรายการ Great Dance Crew เตนล์ ก็สามารถครองใจผู้ชมรายการวาไรตี้ไปได้อยู่หมัดเลยทีเดียว

ผลงานเพลง

2016 The 7th Sense – NCTU
2017 Dream In A Dream
2018 Baby Don’t Stop – NCTU (TEN & Taeyong), New Heroes, Black on Black – NCT 2018
2019 Regular – WayV,Dream Launch – WayV, TAKE OFF – WayV, Jopping – SuperM, Love talk (English version) – WayV,Moonwalk – WayV
2020 Turn Back Time – WayV, Bad Alive – WayV, 100 – SuperM, Tiger Inside – SuperM, One (Monster & Infinity) – SuperM, 90s love – NCT 2020, Work it – NCT 2020
,RESONANCE – NCT 2020
2021 Kick Back – WayV, Paint Me Naked, LowLow – WayV (TEN & YANGYANG)
2022 BIRTHDAY

เกิดกระแสข่าวซุบซิบว่า Vernon (เวอร์นอน) สมาชิกวง Seventeen กำลังออกเดทกับสไตลิสต์ของวงบอยแบนด์ TOMORROW x TOGETHER
ซึ่งกำลังเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงในชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ

ข่าวซุบซิบดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากโพสต์เรื่องราวใน Instagram ที่ผ่านมานี้ได้รับความสนใจ
เมื่อมีคนเข้ามาถามว่า “คุณมีความสัมพันธ์กับใครหรือไม่” โดยสไตลิสต์ตอบว่า “ใช่”

และก็สิ่งที่เด่นเป็นพิเศษในภาพเป็น ‘ตุ๊กตาหมี’ แฟน ๆ บางคนอ้างว่าตุ๊กตาหมีที่สไตลิสต์เป็นเจ้าของเป็น

ตุ๊กตาหมีตัวเดียวกับที่เคยเห็น Vernon

อุ้มที่สนามบินนานาชาติอินชอนในปี 2022 บางคนคาดคะเนว่า เวอร์นอน ซื้อตุ๊กตาหมีเป็นของขวัญให้ “แฟน” ของเขาหลังจากไปเที่ยวอเมริกา สำหรับการทัวร์ของ Seventeen

นอกนั้น ชาวเน็ตบางคนยังอ้างว่าเวอร์นอนและสไตลิสต์เป็นเจ้าของสินค้า
“คู่รัก” หลายอย่าง

เป็นต้นว่า หมวกที่เข้าชุดกันหรือแหวนที่เข้าชุดกัน ผู้อื่นกล่าวถึงว่า “น้องสาวของ Vernon กำลังติดตามสไตลิสต์บน Instagram” ทำให้เกิดข่าวซุบซิบดังกล่าวอีกด้วย
สรุปว่าเรื่องราวดังกล่าวจะจริงเท็จอย่างไร คงจะต้องรอให้ทางต้นสังกัดออกมาชี้แจงดีที่สุด

 

จุดกำเนิดของ SEVENTEEN

ในช่วงปี 2013 ทางค่ายเพลง Pledis Entertainment (เพลดิส เอ็นเตอร์เทนเมนต์) ก่อตั้งโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า “SEVENTEEN TV” ที่ออกฉายทางช่อง Ustream
ซึ่งรูปแบบของรายการจะเป็นแนวเรียลลิตี้เกาหลี ที่ถ่ายทอดชีวิตของทุกวัน การฝึกร้องและก็เต้น การทำภารกิจต่าง ๆ ของเหล่าเด็กฝึกหัดผู้ชายหลากหลายสัญชาติทั้งยัง เกาหลี จีน และก็สหรัฐอเมริกา ที่ผ่านการออดิชันเข้ามาหรือถูกแมวมองชักชวนให้เข้าฝึกฝนที่ค่าย Pledis Entertainment เพื่อสร้างบอยแบนด์กรุ๊ปในอนาคต

ตลอดระยะเวลาอีกทั้ง 5 ซีซีนของรายการ SEVENTEEN TV มักเกิดการเปลี่ยนแปลงของเหล่าสมาชิกอยู่ตลอดเวลา เพราะมีการถอนตัวของเด็กฝึกฝนคนเก่ารวมทั้งเพิ่มเด็กฝึกฝนคนใหม่เข้าไปแทนที่จนสุดท้ายแล้วเหลือสมาชิกเพียงแค่ 13 คนเท่านั้น ซึ่งต่อมาในปี 2015 ทางค่าย Pledis Entertainment ได้ทำงานร่วมกับช่อง MBC สร้างอีกหนึ่งรายการเรียลลิตี้โปรเจกต์ใหม่ในชื่อว่า “SEVENTEEN Project: Big Debut Plan”

Hip Hop / Vocal / Performance ยูนิตอีกทั้ง 3 จาก SEVENTEEN

การแบ่งยูนิตของเซเว่นทีนถูกออกเป็น 3 กลุ่มย่อย (Unit) ได้แก่ กลุ่มฮิปฮอป (Hip Hop Unit) มี เอสคุปส์ (หัวหน้าทีม), วอนอู, มินกยู , เวอร์นอน กลุ่มเสียงร้อง (Vocal Unit) ประกอบด้วย อูจี (หัวหน้าทีม), จองฮัน , โจชัว , DK, ซึงกวาน กลุ่มการแสดง (Performance Unit) มี โฮชิ (หัวหน้าทีม), จุน , ดิเอท, ดีโน่

โดยมีคอนเซ็ปต์การตั้งชื่อวงที่เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกทั้ง 13 คน + กลุ่มย่อย 3 กลุ่ม รวมเป็น 1 ทีม เท่ากับเลข 17 หรือ เซเว่นทีน
ซึ่งจะโปรโมทในเกาหลี ประเทศญี่ปุ่นและจีน เพื่อให้ชาว Carat ได้จำใบหน้าของศิลปินทุกคนก่อนเดบิวต์นั่นเอง

สร้างชื่อเสียงที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ยังไม่เริ่มกิจกรรม!

ปี 2016 SEVENTEEN ได้ปล่อยอัลบั้มชุดแรกในชื่อ ““Love & Letter” โดยมี “Pretty U” เป็นซิงเกิลหลัก
ซึ่งได้สร้างปรากฎการณ์หนึ่งในเพลงที่ดังที่สุดของวง โดยเพลง Pretty U สามารถทำให้วงเซเว่นทีนคว้าถ้วยรางวัลในรายการเพลงได้สำเร็จ และไม่ใช่เพียงแค่โด่งดังในเกาหลีเท่านั้น
แต่เพลงนี้ยังเป็นเพลงได้รับความนิยมขึ้นชาร์ต Oricon ของญี่ปุ่นอีกด้วย ทั้ง ๆ ที่พวกเขายังไม่ได้เดบิวต์ในญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ เซเว่นทีนก็ได้ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตเป็นครั้งแรก “Seventeen’s 1st Asia Tour 2016 Shining Diamonds” ในหลายประเทศตั้งแต่ เกาหลี ประเทศญี่ปุ่น จีน อินโดนิเซีย และก็ออสเตรเลีย

ศิลปินบอยแบนด์ผู้ขึ้นแท่นเจ้าพ่อ “วาไรตี้ออนไลน์แห่งชาติ”

วันที่ 12 มิ.ย. 2017 SEVENTEEN ได้เผยแพร่รายการรายการวาไรตี้ออนไลน์ “Going Seventeen” โดยรูปแบบรายการเป็นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับศิลปิน
ที่หลากหลาย ตั้งแต่ไลฟ์สไตล์การดำรงชีวิต การทำงาน การพักผ่อน รวมถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่พวกเขาได้รับมอบหมาย โดยตลอดเวลาที่รายการ Going Seventeen
ออกอากาศนั้นชอบได้รับคำวิจารณ์ในทางบวกเสมอ จนถึงขั้นถูกสื่อดังอย่าง Naver และ Harper Bazaar ยกให้ Going Seventeen คือ รายการวาไรตี้ออน์ไลน์แห่งชาติเลยทีเดียว

Don’t Wanna Cry บทเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ยอดวิวทะลุ 230 ล้านวิว

울고 싶지 않아 (อุลโก ชิบจีอานา) มั่นใจว่าหากท่อนนี้ขึ้นมาเมื่อไร แฟนด้อม Carat ต้องรู้เท่าทันทีว่านี้คือเพลงอะไร?! เพราะในปี 2017 ที่ผ่านมา Don’t Wanna Cry – SEVENTEEN นับว่าเป็นซิงเกิลเพลงหลักที่สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่มียอดผู้รับดูบน Youtube มากถึง 230 ล้านวิว! Don’t Wanna Cry นับว่าเป็นบทเพลงที่ยกระดับให้เซเว่นทีนกลายเป็นศิลปินบอยแบนด์แถวหน้าของวงการ K-pop ไม่เพียงแค่ยอดวิวที่ถล่มทลายเท่านั้น
แต่ยอดจำหน่ายอัลบั้มก็สามารถขายได้มากกว่า 330,000 ชุดภายในปีดังกล่าวเช่นเดียวกัน

การเดินทางครั้งใหม่ภายใต้หลังคา HYBE Corporation

ในปี 2020 SEVENTEEN ได้จับมือ ทำงาน ร่วมกับ HYBE Corporation (ไฮบ์ คอร์ปอเรชัน) อย่าง เป็นทางการ โดยไฮป์ จะเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ ใน Pledis Entertainment (เพลดิส เอ็นเตอร์เทนเมนต์) ซึ่งถือว่าเพลดิส กลาย เป็นค่ายลูกของ ไฮบ์ อย่างเป็นทางการเช่นกัน แต่ดังนี้เซเว่นทีนยังคงอิสระรวมทั้งได้รับรับสิทธิในการทำเพลง รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ อย่างเต็มที่ดังเดิม แถมสมาชิกทุกคนในวงยังสามารถมีงานเดี่ยวทั้ง พรีเซนเตอร์ ถ่ายแบบ เล่นซี่รีย์ ถ่ายรายการวาไรตี้ รวมทั้งมีผลงานเดี่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย

ปล่อยเพลง ให้ฟังเพลง ต่อเนื่อง สำหรับ ลิซ่า Blackpink ด้วยเนื้อเพลง และมิวสิควีดีโอ สุดฮอต จนเป็น นักร้องระดับโลก ที่ การันตีคุณภาพ ผลงานด้วย รางวัลที่ได้รับ นักร้องสาว สุดฮอต ลิซ่า Blackpink หรือ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ที่เรียกว่าเธอนั้น มีความสามารถครบทุกด้าน นอกเหนือจากที่จะสวยน่ารักน่าเอ็นดู นิสัยดี แล้วเรื่องการ ร้อง เต้น ยังมาครบ ซึ่งผลงานที่เธอทำออกมานั้นมีรางวัลการันตีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่มียอดวิวสูงสุด หรือ ยอดวิวครบ 100 ล้านวิวเร็วที่สุด

ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมรางวัลของ LISA มาไว้ให้แล้ว จะมีรางวัลอะไรบ้างไปดูกันเลย

รางวัลปี 2561
เดอะสแตนดาร์ด สาขาบุคคลแห่งปี
เกรตสตาร์โซเชียลอะวอดส์ สาขาผู้ทรงอิทธิพลหญิงในกระแสโซเชียล

รางวัลปี2562
เดอะสแตนดาร์ด สาขาบุคคลแห่งปี

รางวัลปี2563
แอนวลเคโฟร์ยูเอส สาขาบุคคลหน้าใหม่ยอดนิยม

รางวัลปี2564
ไทยแลนด์มาสเตอร์ยัง เยาวชนต้นแบบ สาขาผู้สร้างแรงบันดาลใจ
เวย์ปั๋วสตาร์ไลต์อะวอดส์ สาขาศิลปินยอดนิยมแห่งปี
หอเกียรติยศ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
เวิลด์ไวด์แฟนชอยซ์ท็อปเทน
ฮันทอมิวสิกอะวอดส์ สาขาอินิเชียลโชทงเรเคิดอะวอด
เวิลด์ไวด์แฟนชอยซ์ท็อปเทน
ศิลปิน หญิงเดี่ยว
เอเชียป็อปมิวสิกอะวอดส์ เพลงแห่งปี (ต่างประเทศ)

รางวัลปี2565
บราโบออตโต สาขาผู้มาใหม่ยอดเยี่ยม
ลแกออนชาร์ตมิวสิกอะวอดส์ สาขามูบีตโกลบอลชอยซ์อวอร์ด ฝ่ายหญิง
เดอะพีเพิลอะวอดส์ สาขาบุคคลแห่งปี
จูกซ์มาเลเซียท็อปมิวสิกอะวอดส์ 5 อันดับเพลงต่างประเทศยอดฮิต (สิ้นปี) เพลง Money
จูกซ์ไทยแลนด์มิวสิกอะวอดส์ เพลงเกาหลีแห่งปี เพลง Money
เอสอีซีอะวอดส์ เพลงสากลแห่งปี
เอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ เคป็อปยอดเยี่ยม
เอ็มทีวียุโรปมิวสิกอะวอดส์ เคป็อปยอดเยี่ยม

5 น้องเหมียวสุดน่ารักของ ลิซ่า BLACKPINK ทำทาสแมวใจละลาย!

แฟนชาว BLINKs หลาย ๆ คนอาจเคย ได้รับชม โมเมนต์ การเป็นทาสแมว ของศิลปิน สาวสุดฮอต LISA ลลิษา มโนบาล หรือ LISA BLACKPINK
ในการ เลี้ยงน้องแมว ซึ่งเป็นของรักของหวงของเธออีกหนึ่งสิ่ง โดยเธอ นั้นมี แมวที่ เลี้ยงดูถึง 5 ตัวด้วยกัน และแต่ละตัวนั้น มีเอกลักษณ์ น่ารักน่าเอ็นดูสง่างาม ในทุก ๆ ตัว
พร้อมการ ตั้งชื่อ เป็นครอบครัว น้องเหมียว “L” ให้แฟน ได้ใจละลาย เคล้าไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของ LISA รวมทั้งน้องเหมียวทั้ง 5 ตัว
วันนี้เราจึงพาทุกคนมาทำความรู้จักแมวของ LISA กันว่าใครจะโดนน้องเหมียวตัวไหนพาให้ตกหลุมรักกันบ้าง

ลีโอ (LEO)
ลีโอ เป็นแมวพันธุ์ Scottish fold แมวตัวแรกของสาวLISAที่เธอนำมาเลี้ยง และดูแล พร้อมเอาใจใส่แบบเต็มพิกัด ด้วยความน่ารักที่มองครั้งแรกก็ตกหลุมรักไปทั้งหัวใจ มีนิสัยขี้เล่น พร้อมความซุกซนไปกับพลังงานล้นเหลือ

ลูก้า (LUCA)
ลูก้า เป็นแมวพันธุ์ Ragdoll แมวตัวที่สอง มีเอกลักษณ์ชัดเจนภายใต้ใบหน้าขนสีน้ำตาลด้านบนดวงตา และสีขนสลับขาวอย่างงดงาม

ลิลลี่ (LILY)
ลิลลี่ เป็นแมวพันธุ์ Ragdoll มีสายเลือดเดียวกับ ลีโอ และลูก้า ซึ่งเธอนั้นเป็นแมวที่มีความสง่างาม แต่ลักษณะของเธอจะคล้ายคลึงกับ ลูก้า ทั้งลายและสีขนที่ใหล้เคียงกัน ทว่า ลิลลี่ จะมีความนุ่มฟูมากกว่า และสีอ่อนกว่า ลูก้า

ลูอิส (LOUIS)
ลูอิส เป็นแมวพันธุ์ British Shorthair เขามีสีขนที่ใกล้เคียงกับ เหมียวรุ่นพี่ของเขาทั้ง 3 ตัว โดย ลูอิส จะมีขนสีขาว เทา ถึงแม้ตอนที่เขานั้นยังเล็ก แต่ก็มีความน่ารัก และเท่มากเลยทีเดียว

เลโก้ (LEGO)
น้องเหมียวตัวสุดท้ายของลิซ่า เลโก้ เป็นแมวพันธุ์ British Shorthair มีขนสีขาวครีม เข้ากับเหมียวทั้ง 4 ตัวข้างต้น ทว่า เลโก้ เป็นแมวที่เหล่าแฟนให้ความสนใจอยู่ตลอด ด้วยความขี้อ้อน

อีกหนึ่งสาวไทยที่ไปเดบิวต์เป็นศิลปิน K-POP เกาหลีใต้
สำหรับ ” มินนี่ ณิชา ยนตรรักษ์” หนึ่งในสมาชิกวง (G)I-DLE ของค่าย Cube Entertainment

ซึ่งเมื่อวันที่ 7 เดือนมกราคม65 ที่ผ่านมา  มินนี่พาเพื่อน ๆ สมาชิกวง (G)I-DLE บินลัดฟ้าร่วมงาน Golden Disc Awards ครั้งที่ 37 (37th Golden Disc Awards) ณ สนามกีฬาแห่งชาติราชมังคลากีฬาสถานกรุงเทพมหานคร เมืองไทย

สาว ๆ ปรากฎตัวตอนเดินพรมแดงในลุคชุดไทยสีชมพูงามสง่า มินนี่

โดยได้ ดีไซน์เนอร์มีชื่อเสียง หมู ASAVA เป็นผู้ตัดเย็บออกมาเป็นชุดไทยประยุกต์

งานนี้สาวๆ(G)I-DLE กวาดรางวัลกลับบ้านไม่น้อย ขณะที่มินนี่ ก็ได้เซอร์ไพรส์แฟนคลับแต่งเนื้อเพลง Villain Dies
เป็นภาษาไทยเพื่อมาแสดงที่ไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเวที #GDAinBKK หลังจบงานเธอยังได้โพสต์ผ่านไอจีว่า

‘올해의 첫 시상식! GDA IN BANGKOK
สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคน ขอบคุณที่มาให้กำลังใจกันน้า เมื่อคืนสนุกมากๆ หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ พวกเราตั้งใจเตรียมตัวกันมาเพื่องานนี้เป็นพิเศษเลยค่ะ:)’

ทำความรู้จัก (G)I-DLE เกิร์ลกรุ๊ปมาแรงกับเพลงฮอตติดหู

(G)I-DLE (จีไอเดิล) เดบิวต์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2018
ภายใต้สังกัด Cube Entertainment ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 6 คน ได้แก่ มิยอน มินนี่ โซยอน อูกี ชูฮวา และซูจิน(อดีตสมาชิก)
เปิดตัวซิงเกิ้ลแรกที่มีชื่อว่า I am ด้วยเพลง LATATA ถือว่าเป็นเพลงที่ด้วยเหตุว่า
และก็ติดหูมาก ๆ ด้วยความที่เพลงติดหู ทำให้พวกเธอได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก

(G)I-DLE (จีไอเดิล) เป็นคำย่อมาจากคำว่า GIRLI–DOL ที่มีความหมายว่า เด็กผู้หญิง เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ป K-pop จากประเทศเกาหลีใต้
ถึงแม้ว่าจะเป็นวงเคป็อบแต่ก็มีเมมเบอร์ต่างชาติถึง 3 คน คือ มินนี่(ไทย) อูกี(จีน) แล้วก็ชูฮวา(ไต้หวัน)
ยิ่งกว่านั้นยังมีการประกาศชื่อแฟน ๆ อย่างเป็นทางการ
โดยมีชื่อแฟนด้อม ๆ ว่า Neverland (เนเวอร์แลนด์) เนเวอร์แลนด์เป็นสถานที่ที่มาจากเรื่อง ปีเตอร์แพน ซึ่งถ้าเกิดได้เข้ามาในเนเวอร์แลนด์แล้วก็จะกลายเป็นเด็กไปตลอดกาล
นั่นสื่อความหมายโดยนัยว่า จีไอเดิลและก็เนเวอร์แลนด์จะอยู่ด้วยกัน อยู่เป็นเพื่อนและก็ใกล้เคียงกันไปตลอดกาลนั่นเอง

ประวัติส่วนตัว

Miyeon (มิยอน)
ชื่อในวงการ : Miyeon
ชื่อจริง : Cho Miyeon
Instagram : noodle.zip
มิยอน พี่ใหญ่ของวง เหมาะสมกับการเป็นพี่ใหญ่จริง ๆ เพราะความสามารถของเธอเรียกได้ว่าครบและยังเก่งมาก ๆ อีกด้วย ทำได้ทุกอย่าง
เป็นคนที่เสียงร้องมีสเน่ห์มากๆและเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ มิยอนเคยเป็นเด็กฝึกเก่าของ YG และยังเคยถูกวางตัวไว้ให้เป็นหนึ่งในเมมเบอร์ของแบล็คพิ้งอีกด้วย
นอกจากนี้เธอยังเป็นวิชวลของวง ด้วยหน้าตาที่คมชัดและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เธอดูมีสเน่ห์มาก ๆ เลย

Minnie (มินนี่)
ชื่อในวงการ : Minnie
ชื่อจริง : Nicha Yontararak
Instagram : min.nicha
มินนี่ คนไทยคนเดียวของวง มินนี่เป็นคนที่มีเสียงไพเราะมากจริง ๆ เสียงทรงพลังสุด ๆ เป็นเสียงที่มีสเน่มากฟังกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลย
เป็นคนที่มีความสามารถเยอะมาก ๆ ด้วย ทำได้หลายอย่างเลย ทั้ง ร้อง เต้น แรป หรือแม้แต่การแต่งเพลงก็ทำเป็นเช่นกัน
อีกทั้งยังเคยแต่งเนื้อเพลงเป็นภาษาไทยอีกด้วย ตั้งตารอคอยวันที่มินนี่ปล่อยผลงานการแต่งเพลงของเธอเลย รอติดตามด้วยกันนะคะ

Soyeon (โซยอน)
ชื่อในวงการ : Soyeon
ชื่อจริง : Jeon Soyeon
Instagram : tiny.pretty.j
โซยอน ลีดเดอร์คนเก่งของวง เป็นคนที่ทำหน้าที่ลีดเดอร์อย่างเต็มที่และทำหน้าที่ได้ดีมาก ๆ คอยดูแลเมมเบอร์ในวงอย่างดี ทุกคนไว้ใจและเชื่อใจลีดเดอร์คนนี้เป็นอย่างมาก
ความสามารถในการแต่งเพลงของเธอดีมาก ๆ เก่งมาก เธอมีลิขสิทธิเพลงเป็นของตัวเองเยอะมาก ๆ รวมไปถึงเพลงในวงเอง เธอก็เป็นคนแต่งอยู่หลายเพลงเลยค่ะ เช่น เพลงเดบิวต์อย่าง LATATA และเพลงฮอตฮิตอย่าง TOMBOY เป็นผู้หญิงที่ความสารถล้นหลามจริง ๆ

Yuqi (อูกี)
ชื่อในวงการ : Yuqi
ชื่อจริง : Song Yuqi
Instagram : yuqisong.923
อูกี เมมเบอร์คนจีนของวง เธอเป็นอีกหนึ่งคนที่มีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ฟังสบายมาก ๆ เป็นคนที่ดูสดใสตลอดเวลา ดูซน ๆ และแสบนิดหน่อย
ทำให้เมมเบอร์ในวงขำอยู่บ่อย ๆ และด้วยความที่เป็นคนจีน เธอมีความสามารถในการเล่นกู่เจิงด้วย มีสเน่ห์มาก ๆ เลย

Shuhua (ชูฮวา)
ชื่อในวงการ : Shuhua
ชื่อจริง : Yeh Shuhua (葉舒華)
Instagram : yeh.shaa_
ชูฮวา น้องเล็กมักเน่ของวง ด้วยความที่เป็นน้องเล็กก็จะมีความแสบ ๆ ซน ๆ นิดหน่อย เป็นคนที่ร่าเริงสดใส ยิ้มน่ารักมาก ๆ
ชูฮวามีความฝันอยากเป็นศิลปินและนักแสดงมาตั้งแต่เล็ก ๆ และก็ยึดมั่นในความฝันจนในที่สุดก็ได้เดบิวต์เป็นศิลปิน
เป็นคนที่พยายามพัฒนาความสามารถตัวเองอยู่เสมอ และทำให้เธอเก่งขึ้นเรื่อย ๆ เลย มีความสามารถในการแสดงอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นวิชวลอีกด้วย เป็นคนที่มุมไหนๆ  ก็สวยไปหมดเลย

อีแจอุค และก็ โกยุนจอง สองนักแสดงหลักจากซีรีส์แนวแฟนตาซีมีชื่อเสียง Alchemy of Souls พาร์ท 2 ที่กำลังออกอากาศทางช่อง tvN อยู่ในขณะนี้ ได้มีโอกาสถ่ายแบบด้วยกันผ่านนิตยสาร Elle ฉบับเดือนมกราคม พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงความประทับใจของทั้งคู่ที่มีให้ต่อกัน ขณะกำลังถ่ายทำซีรีส์เรื่องดังกล่าวเพราะว่าในผลงานนี้นับเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง อีแจอุค แล้วก็ GO YOON JUNG

ทางด้านของ GO YOON JUNG จึงได้เผยความรู้สึกถึงการร่วมงานกันในครั้งนี้ว่า “ฉันรู้อยู่แล้วค่ะว่าอีแจอุคเป็นนักแสดงที่ดี แต่อีแจอุคที่ฉันเห็นในกองถ่ายนั้นได้แสดงให้เห็นถึงทักษะการแสดงที่เหนือความคาดหมายมากกว่านั้นค่ะ ซึ่งก่อนหน้านั้นฉันค่อนข้างประหลาดใจกับภาพลักษณ์ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ของเขา แต่ฉันก็กลับประหลาดใจกับภาพลักษณ์ที่น่ารักและน่าเอ็นดูของเขาอีกครั้งในภายหลังค่ะ”

ซึ่งทางด้านของ อีแจอุค ก็ยังได้กล่าวชื่นชอบ

ในฐานะนักแสดงนำหญิงคนใหม่อีกด้วยว่า “สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปรับคาแรกเตอร์ของจางอุคให้เข้ากับเรื่องราวใหม่ของซีรีส์ที่ผ่านไปแล้วกว่าสามปี แต่ผมมั่นใจว่าพี่GO YOON JUNGคงจะลำบากมากกว่า แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม พี่เขาก็ติดต่อมาหาผมเพื่อซ้อมบทด้วยกัน ผมจึงประทับใจในแพชชั่นของพี่เขามากจริง ๆ ครับ”

และก็เพราะเหตุว่าซีรีส์ Alchemy of Souls พาร์ท 2
เป็นซีรีส์ที่มีเอกลักษณ์ไม่ราวกับใคร ด้วยการผสมผสานกันระหว่างศิลปะการต่อสู้ ความแฟนตาซี และความโรแมนติกเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งสองจึงต่างให้คำตอบที่คล้ายคลึงกันเมื่อถูกถามถึงฉากที่ท้าทายความสามารถรวมทั้งประทับใจมากที่สุด
โดยทางด้านของ โกยุนจอง ได้เลือกฉากแอคชั่นเป็นคำตอบ พร้อมทั้งเปิดเผยว่า “มีหลากหลายฉากที่มีพวกเราสองคนและยังเป็นสถานการณ์ต่าง ๆ ที่
คล้ายกันค่ะ ดังนั้นพวกเราจึงพึ่งพิงซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก
รวมทั้งเมื่อเขาต้องเข้าฉากกับนักแสดงท่านอื่นๆที่ไม่ใช่ฉัน ฉันก็นึกสงสัยว่าเขาจะทำได้ดีหรือเปล่า”

ซึ่งทางด้านของ อีแจอุค ก็มองเห็นด้วยกับ โกยุนจอง

รวมทั้งยังได้กล่าวเสริมอีกด้วยว่า
“พวกเราได้สร้างความรู้สึกเชื่อมโยงขึ้นมาจริง ๆ ครับ บางครั้งผมก็รู้สึกอิจฉา เพราะผมอยากให้ฉากที่พี่เขาถ่ายกับผมเป็นฉากที่สวยและเจ็บปวดใจมากที่สุดในซีรีส์ครับ”

Alchemy of Souls เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซี-ย้อนยุค ที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอาณาจักรแดโฮ
ดินแดนที่ไม่ปรากฏอยู่บนแผนที่หรือในประวัติศาสตร์จริง เหล่าจอมเวทย์เจอเจอกับโชคชะตาที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากวิชาแปรวิญญาณ
ถ่ายทอดผ่านความสามารถของนักเขียนบทโด่งดัง 2 พี่น้องตระกูลฮง (ฮงซิสเตอร์) ที่เขียนบทซีรีส์ดังมากมาย เป็นต้นว่า Hotel del Luna, A Korean Odyssey, Master’s Sun เป็นต้น

ซีรีส์ Alchemy of Souls พาร์ท 2 ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง tvN รวมทั้งสามารถรับชมซับไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง Netflix

เปิดประวัติ ‘โกยุนจอง’ จากนางแบบโฆษณา สู่นักแสดงดาวรุ่งน่าจับตา ผู้สะกดทุกสายตาในซีรีส์ Alchemy of Souls พาร์ท 2

โกยุนจอง ถือเป็นนักแสดงอีกหนึ่งคนที่แฟน ๆ จับตาดูเธอตั้งแต่แรกเห็น
เพราะว่าถึงแม้ในเรื่องที่ผ่าน ๆ มาของเธอ จะได้รับบทเป็นเพียงแค่นักแสดงสมทบและรับเชิญ
แต่ออร่าของเธอที่โลดแล่นอยู่ในจอแก้วกลับจับใจคนดูได้อยู่มัดในทุก ๆ การปรากฏตัว ชนิดที่ว่าถ้าหากฉากไหนเธอได้ออกมาโซเชียลแทบแตกเมื่อนั้น
เนื่องจากทุกคนพร้อมใจกันพูดถึงเธอกันถ้วนหน้า รวมทั้งในที่สุด GO YOON JUNG ก็ได้รับบทนำสุดกำลังเป็นครั้งแรก แล้วในซีรีส์ย้อนยุค-แฟนตาซี Alchemy of Souls: Light and Shadow (2022) หรือ Alchemy of Souls พาร์ท 2 ในบทบาทของ จินบูยอน / นักซู

GO YOON JUNG / 고윤정 เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 1996
ปัจจุบันอายุ 26 ปี สำเร็จการศึกษาจาก คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสตรีโซล (Seoul Women’s’ University)
อยู่ภายใต้สังกัดนางแบบ MAA management โดยเธอก้าวเข้าวงการจากการเป็นนางแบบโฆษณาให้กับหลากหลายแบรนด์สินค้าดัง
อาทิ Ritz Crackers, Nike, Dior, Giorgio Armani, Sports แล้วก็อีกมากมาย
ซึ่งเส้นทางการเดบิวต์เป็นนักแสดงที่เข้ามาโลดแล่นในจอแก้วของเธอ เริ่มขึ้นในปี 2019 ผ่านผลงานซีรีส์เรื่องแรกอย่าง He is Psychometric ในบทบาทของ คิมซูฮยอน เพื่อนสมัยมัธยมปลายของยุนแจอินที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียน

ในปีเดียวกันนี้GO YOON JUNG ยังเริ่มเป็นที่สนใจ จากคลิปวิดีโอโฆษณา แคมเปญ 0TEEN ของ SK Telecom ที่ความสวยเด่นของเธอสะดุดตา
และหลงรักตั้งแต่แรกเห็น จนถึงทำใครคนจำนวนไม่น้อยอยากรู้ว่า เธอคือใคร ล่าสุด GO YOON JUNG ได้ก้าวขึ้นมารับบทบาทนำอย่างเต็มกำลัง ในซีรีส์แฟนตาซี Alchemy of Souls: Light and Shadow (2022)
หรือ Alchemy of Souls พาร์ท 2 ในบทบาทของหญิงสาวที่ไร้ความทรงจำ ที่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะ จินบูยอน ลูกสาวคนโตของจินโยวอน
ที่ภายในเป็นวิญญาณของ นักซู ซึ่ง GO YOON JUNG ได้เปิดเผยความงามที่ไม่มีที่ติ และก็สามารถถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างดี สานต่อคาแรคเตอร์ตัวละครนำหญิงได้อย่างไร้รอยต่อ